ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส ไตรมาสแรกกำไรโต

ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส เจ้าของแบรนด์ “บุญเติม” โชว์ผลประกอบการไตรมาสแรกกำไร 88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3% รายได้รวมจากธุรกิจหลัก 484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน หลังขยายตู้เติมเงินทั่วประเทศได้เกินคาด ผู้บริหารเผยรายได้เติบโตทุกช่องทาง โดยเฉพาะรายได้จากการโฆษณา ย้ำเป้าหมายยอดเติมเงินปีนี้ 21,000 ล้านบาท จากจำนวนตู้ 90,000 ตู้ พร้อมเพิ่มเติมบริการ และสินค้าใหม่ต่อเนื่อง ส่วนบริการโอนเงินเชื่อสร้างผลงานน่าพอใจในไตรมาส 2

นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) “FSMART” ผู้นำช่องทางการชำระเงินที่มีเครือข่ายมากที่สุดในประเทศไทยผ่าน “ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2559 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่มีกำไร 77 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมจากธุรกิจหลักอยู่ที่ 484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% จากไตรมาสก่อนที่มีรายได้ 450 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของผลประกอบการดังกล่าวเนื่องจากบริษัทสามารถขยายจำนวน “ตู้บุญเติม” ได้สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งในไตรมาส 1 บริษัทมี “ตู้บุญเติม” รวมทั้งสิ้น 72,475 ตู้ มากกว่าไตรมาสก่อนที่มีจำนวนตู้บุญเติม 65,867 ตู้ ส่งผลให้มีมูลค่าเติมเงินรวมผ่าน “ตู้บุญเติม” เติบโตอย่างเห็นได้ชัด อยู่ที่ 4,909 ล้านบาท มากกว่าไตรมาสก่อน 9.1%

โดยทุกช่องทางของการหารายได้ของบริษัทมีการเติบโต โดยเฉพาะรายได้จากการโฆษณาที่มีรายได้ 6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 500% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้หลักมาจากค่าโฆษณาจาก AIS ซึ่งเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลายปี 2558 ขณะที่รายได้ผลตอบแทนจากการให้บริการเติมเงินโทรศัพท์ระบบเติมเงินล่วงหน้า และรับชำระเงินออนไลน์อื่นๆ (Commission) เท่ากับ 205 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.0% เทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 50.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการให้บริการผ่าน “ตู้บุญเติม” (Service Charge) เท่ากับ 273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% เทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 40.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามแผนกลยุทธ์ ซึ่งในปีนี้มีการแข่งขันสูงขึ้นจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามาในตลาดหลายราย แต่บริษัทยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 และสามารถสร้างผลประกอบการได้เกินกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งทุกช่องทางมีการเติบโต ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากการเพิ่มจำนวนของ “ตู้บุญเติม” ที่บริษัทได้ขยายพื้นที่ให้บริการไปทุกภูมิภาคทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงพื้นที่ที่มีศักยภาพ และเชื่อมั่นว่าในปีนี้จะสามารถขยายจำนวน “ตู้บุญเติม” ให้ได้ 90,000 ตู้ และสร้างรายได้อยู่ที่ 21,000 ล้านบาท ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้” นายสมชัย กล่าว

ขณะที่ยอดการใช้บริการ “ตู้บุญเติม” ในปัจจุบันเฉลี่ย 1.5 ล้านรายการต่อวัน จากจำนวนหมายเลขผู้ใช้งานรวมกว่า 18.9 ล้านเลขหมาย ทำให้เชื่อว่า จะมีช่องทางการเติบโตอีกมาก บริษัทจึงวางกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดเติมเงิน และเพิ่มลูกค้าใหม่ๆ ด้วยการจัดกิจกรรมในโครงการ “บุญเติม เติมสนุก เก็บแต้มสนั่น ลุ้นทองมันส์ กันทุกเดือน ปี 2” ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก

สำหรับการเป็นตัวแทนของธนาคารกรุงไทย ในการให้บริการโอนเงินผ่าน “ตู้บุญเติม” ที่เปิดให้บริการโอนเงินในเดือนเมษายน 2559 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สะดวก ง่าย ได้เงินเลย” บริษัทคาดว่าจะเห็นการสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในไตรมาส 2 และรายได้ในส่วนนี้จะสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในอนาคตตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งเน้นที่จะพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และการเพิ่มคุณภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนความพึงพอใช้ของผู้ใช้บริการ และเพื่อตอบสนองความต้องการให้แก่ผู้ใช้งานตู้เติมเงินบุญเติมตามนโยบายของบริษัทที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง