FSMART เจ้าของตู้เติมเงิน “บุญเติม” ลุยเพิ่มศักยภาพช่องทางการหารายได้เพิ่มในปี 2559 ติดตั้งโฆษณาใหม่บนขาตู้เติมเงินเพื่อเข้าถึงเป้าหมายจากผู้ใช้กว่า 1.5 ล้านรายต่อวัน ผู้บริหารย้ำแผนปีนี้ขยายตู้เพิ่ม 24,000 ตู้ ผลักดันยอดเติมทั้งปีที่ 21,000 ล้านบาท ส่วนผลงานปี 2558 รายได้โต 45% ส่วนกำไรสุทธิเพิ่ม 77% หลังขยายตู้เติมเงินได้เกินเป้าหมาย เล็งจ่ายปันผลเพิ่มอีกหุ้นละ 0.15 บาท หลังจ่ายระหว่างกาลเมื่อวันที่ 2 ก.ย.58 ไปแล้ว 0.13 บาท
นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ผู้นำช่องทางการชำระเงินที่มีเครือข่ายมากที่สุดในประเทศไทยผ่าน “ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม” เปิดเผยว่า การดำเนินงานในปี 2559 บริษัทจะเพิ่มศักยภาพการหารายได้จากช่องทางอื่นๆ มากขึ้น หลังจากในปีที่ผ่านมา ทุกช่องทางการหารายได้มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะรายได้ค่าโฆษณาที่มีการรับรู้รายได้เพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงโอกาสการสร้างรายได้จากการโฆษณาที่จะสอดคล้องไปกับแผนขยายจำนวนตู้เติมเงินอีก 24,000 ตู้ทั่วประเทศในปีนี้ ซึ่งจะทำให้สิ้นปี 2559 จะมีตู้เติมเงินบุญเติม 90,000 ตู้ทั่วประเทศ
ปัจจุบัน บริษัทได้ลูกค้าที่ซื้อพื้นที่โฆษณาบนขาตั้งตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติมล่าสุด คือ AIS ลงโฆษณาด้วยการ warp สติกเกอร์ขาตั้งตู้ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อย่างไรก็ตาม จากจำนวนตู้เติมเงินบุญเติม 65,867 ตู้ในปัจจุบัน ทำให้ยังสามารถรองรับลูกค้าที่จะมาลงโฆษณากับบริษัทอีกจำนวนมาก และเชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าที่ใช้บริการตู้บุญเติมอย่างเป็นประจำสูงถึง 18 ล้านเบอร์ โดยมีผู้ใช้บริการตู้เติมเงินบุญเติมเฉลี่ยมากกว่า 1,500,000 รายการต่อวัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัทอย่างมีนัยสำคัญ นอกเหนือจากยอดเติมเงิน 21,000 ล้านบาท ที่บริษัทวางเป้าหมายไว้
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,684 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 521 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 45% จาก 1,163 ล้านบาทในปี 2557 ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% ขณะที่มูลค่าเติมเงินรวมอยู่ที่ 15,386 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 46% จากปี 2557 ที่มีมูลค่าการเติมเงินที่ 10,550 ล้านบาท สอดคล้องต่อการขยายจำนวนของ “ตู้บุญเติม” ที่เกินเป้าหมาย ทั้งนี้ ณ วันสิ้นงวดปี 2558 บริษัทมี “ตู้บุญเติม” จำนวน 65,867 ตู้ เพิ่มจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 60,000 ตู้
ขณะที่รูปแบบการให้บริการที่หลากหลายของ “ตู้บุญเติม” ที่มีแอปพลิเคชันให้บริการกว่า 65 รายการ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ และงานกิจกรรมนอกสถานที่ รวมถึงการจัดรายการส่งเสริมการขาย ถือเป็นแรงผลักดันให้ “ตู้บุญเติม” ได้รับความนิยมจากลูกค้าผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผลการดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย นอกเหนือจากจำนวนตู้ที่เพิ่มขึ้น และความมีประสิทธิภาพของระบบการให้บริการที่มีความรวดเร็ว แม่นยำ และน่าเชื่อถือมาตลอดระยะเวลาที่บริษัทให้บริการเป็นต้นมา
ทั้งนี้ จากที่ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงาน ประจำปี 2558 ให้แก่ผู้ถือหุ้นรวมทั้งสิ้นในอัตราหุ้นละ 0.28 บาท โดยเงินปันผลดังกล่าวบริษัทฯ ได้มีการจ่ายครั้งแรกเป็นเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นแล้วในอัตราหุ้นละ 0.13 บาท เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2558 คงเหลือเป็นเงินปันผลจ่ายครั้งที่ 2 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record date) ที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 25 เมษายน 2559 และปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 26 เมษายน 2559 และไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 21 เมษายน 2559 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 4 พฤษภาคม 2559 อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวยังต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 เมษายน 2559
“ผลงานในปี 2558 โดยรวมถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ จึงเตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้นเพื่อจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมอีกหุ้นละ 0.15 บาท หลังจากจ่ายเป็นเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.13 บาท เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2558 ขณะที่ผลการดำเนินงานส่วนอื่นๆ ถือว่าเกินความคาดหมาย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนตู้เติมเงินบุญเติมที่สามารถขยายได้เร็วกว่าคาดการณ์ เช่นเดียวกับการรับรู้รายได้จากช่องทางอื่นที่เติบโตอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าจะเป็นจำนวนที่ไม่มาก แต่สะท้อนให้เห็นโมเดลธุรกิจ Digital Retail Channel เพิ่มรายได้ 5 ช่องทาง ที่บริษัทพยายามหาโอกาสเพิ่มมูลค่านอกเหนือจากรายได้การเติมเงินมือถือ ทั้งรายได้จากการเติมเงินอื่นๆ รายได้จากการรับชำระค่าบริการ รายได้จากการขายสินค้า รวมถึงรายได้จากการโฆษณาที่เชื่อว่าในปีนี้การโฆษณาผ่านหน้าจอของตู้เติมเงินบุญเติม และการทำสติกเกอร์ wrap ขาตั้งตู้ จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเจ้าของสินค้าต่างๆ อีกช่องทางหนึ่งที่จะประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยอาศัยจำนวนตู้เติมเงินที่มีอยู่ทั่วประเทศ ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าที่ใช้บริการตู้บุญเติมอย่างเป็นประจำสูงถึง 18 ล้านเบอร์ โดยมีผู้ใช้บริการตู้เติมเงินบุญเติมเฉลี่ยมากกว่า 1,500,000 รายการต่อวัน ซึ่งในอนาคตเชื่อมั่นว่าช่องทางโฆษณาจะเป็นส่วนช่วยให้รายได้ของบริษัทมีการเติบโตอย่างชัดเจน” นายสมชัย กล่าวสรุป