รวบคนร้ายขโมยโทรศัพท์แล้วเผาร้านที่เกาะช้าง

ตราด- รวบคนร้ายขโมยโทรศัพท์แล้วเผาร้านที่เกาะช้าง คาด่านหาดเล็กขณะออกนอกประเทศ คนร้ายสารภาพแค้นถูกโกงค่าโทรศัพท์หลังซื้อมาแพงกว่าในเน็ต 1,000 บาท

วันนี้ (4 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ตราด นำโดย พ.ต.อ.เฉลิมพรรษ์ เปาอินทร์ ผกก.สส.ภ.จว.ตราด พร้อมด้วย พ.ต.ท.จัตุรัตน์ รัตนไชยศรี และ พ.ต.ท.กิตติสัณห์ ชะนะ รอง ผกก.สส.ภ.จว.ตราด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.ตราด ควบคุมตัว นายมนตรี หรือชาย ประหยัดใช้ อายุ 34 ปี อยู่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 1 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดตราด เลขที่ 34/2559 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2559 คนร้ายผู้ลงมือก่อเหตุงัดร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ และสินค้าไอที “บี เจ โฟโต้เทค” ของ น.ส.จุทาพร ขำกิ่ง อายุ 45 ปี เลขที่ 30/71 หมู่ 4 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด

หลังจากกวาดมือถือราคาแพงนับ 10 เครื่องอย่างใจเย็น พร้อมยังจุดไฟเผาร้านหวังทำลายหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. ของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านเกิดเหตุ ภายหลังจากสามารถสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านพักไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 5 ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ระหว่างรอเดินทางไปทำการต่อวีซ่าที่ชายแดนตราด บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ดำเนินการสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของคนร้ายได้ในทางลับ ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ นำสู่การติดตามตรวจค้น และขยายผลจับกุมตัวได้ พร้อมด้วยของกลางจำนวนหลายรายการ

ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 6S ซัมซุง รุ่น A7 A5 J7 OPP0 รุ่น Mirror5 VIVO Y37 จำนวน 6 เครื่อง แท็บเล็ตยี่ห้อซัมซุง แกแลคซี่ 1 เครื่อง กล้องถ่ายรูปยี่ห้อนิคอน รุ่น D3100 พร้อมขาตั้งกล้อง คีม 1 อัน กางเกงขาสามส่วนสีเทาดำ และรองเท้าแตะสีดำแบบสวม ที่ผู้ต้องหารับว่าใส่ในวันก่อเหตุ

เบื้องต้น นายมนตรี หรือชาย ประหยัดใช้ รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ และจุดไฟเผาทำลายทรัพย์สิน โดยอ้างว่าโกรธเคืองที่ถูกร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือโกงค่าโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหนึ่ง ที่ใช้เงินสด 15,000 บาทซื้อมา แต่เมื่อนำมาตรวจสอบราคาผ่านอินเทอร์เน็ตกลับพบว่ามีราคาเพียง 14,000 บาทเท่านั้น จึงได้อาศัยจังหวะเหมาะย่องงัดร้านเข้าไปลักเอาทรัพย์สินตามรายการดังกล่าวออกมา

แต่กลับเห็นว่าถูกกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งภายในร้านบันทึกภาพไว้ได้จึงได้ตัดสินใจจุดไฟเผาร้านเพื่อทำลายหลักฐาน โดยไม่คิดว่ายังกล้องวงจรปิดจุดอื่นสามารถบันทึกภาพพฤติกรรมของตนเองในวันดังกล่าวไว้ได้ จนมาถูกจับกุมตัวได้พร้อมของกลางตามรายการดังกล่าว

ส่วนของกลางบางส่วนที่หายไป นายมนตรี ได้นำไปขายเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายเป็นการส่วนตัว