รายงานข่าวแจ้งว่า นางบัณฑิตา ศิริกอง เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม ต.ดอนกระเบื้อง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ให้ช่วยตรวจสอบกรณีถูกเรียกเก็บค่าบริการโทรศัพท์จากบริษัทผู้ให้บริการรายหนึ่ง เป็นเงิน 53,166 บาท ทั้งที่เลือกโปรโมชั่นควบคุมวงเงินไม่ให้เกิน 1,000 บาทต่อเดือน
จากการสอบถามผู้ให้บริการ พบว่า ยอดค้างชำระเกิดจากการโหวตให้คะแนนผู้เข้าประกวดรายการอคาเดมี แฟนเทเชีย (เอเอฟ) เป็นจำนวนถึง 123 โหวต ด้วยรูปแบบกดคะแนนโหวต 100 คะแนน ในราคาคะแนนละ 4 บาท คิดเป็นเงิน 49,200 บาท โดยลูกสาวอายุ 8 ขวบ ยอมรับว่าได้กดคะแนนส่งไปให้จริง
นางบัณฑิตา ระบุด้วยว่า ได้กำหนดการควบคุมวงเงินไม่เกิน 1,000 บาท แต่ผู้ให้บริการอ้างว่ามีการกดที่เร็วมาก ระบบไม่สามารถระงับได้ทัน
ขณะที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า เบอร์โทรศัพท์นี้ใช้บริการเครือข่าย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทได้ยอมรับว่าระบบไม่สามารถปิดกั้นค่าโทรศัพท์ส่วนเกินจากที่เจ้าของเบอร์โทรศัพท์ได้จำกัดยอดใช้จ่ายค่าโทรศัพท์ไว้ไม่เกินเดือนละ 1,000 บาท เพราะการกดโหวตค่าโทรศัพท์เกิน 1,000 บาทไปแล้ว ฉะนั้นส่วนต่างที่เกินจาก 1,000 บาท บริษัทจะขอรับผิดชอบในส่วนนี้ โดยผู้เสียหายไม่ต้องจ่ายส่วนเกิน
อย่างไรก็ดี สำนักงาน กสทช. จะแจ้งไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย ดังนี้ ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายต้องเก็บค่าใช้จ่ายตามจริงและไม่เกินยอดที่ลูกค้าจำกัดการใช้ ขอให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายทำหนังสือแจ้งเตือนประชาชน และผู้ปกครองเรื่องสิทธิการจำกัดยอดค่าใช้จ่ายต่อเดือน และขอให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายให้ความรู้ประชาชนและผู้ปกครองเรื่องค่าใช้จ่าย สำหรับการใช้โทรศัพท์มือถือในการโหวตผ่านรายการต่าง ๆ
“สำหรับผู้ปกครองที่ให้เด็กใช้โทรศัพท์มือถือ ผมขอแนะนำว่า ให้แจ้งกับบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายนั้นว่า ขอจำกัดยอดค่าใช้จ่ายต่อเดือนไว้ไม่เกินเท่าไร เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กในภายหลัง” นายฐากร กล่าว
จากการสอบถามผู้ให้บริการ พบว่า ยอดค้างชำระเกิดจากการโหวตให้คะแนนผู้เข้าประกวดรายการอคาเดมี แฟนเทเชีย (เอเอฟ) เป็นจำนวนถึง 123 โหวต ด้วยรูปแบบกดคะแนนโหวต 100 คะแนน ในราคาคะแนนละ 4 บาท คิดเป็นเงิน 49,200 บาท โดยลูกสาวอายุ 8 ขวบ ยอมรับว่าได้กดคะแนนส่งไปให้จริง
นางบัณฑิตา ระบุด้วยว่า ได้กำหนดการควบคุมวงเงินไม่เกิน 1,000 บาท แต่ผู้ให้บริการอ้างว่ามีการกดที่เร็วมาก ระบบไม่สามารถระงับได้ทัน
ขณะที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า เบอร์โทรศัพท์นี้ใช้บริการเครือข่าย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทได้ยอมรับว่าระบบไม่สามารถปิดกั้นค่าโทรศัพท์ส่วนเกินจากที่เจ้าของเบอร์โทรศัพท์ได้จำกัดยอดใช้จ่ายค่าโทรศัพท์ไว้ไม่เกินเดือนละ 1,000 บาท เพราะการกดโหวตค่าโทรศัพท์เกิน 1,000 บาทไปแล้ว ฉะนั้นส่วนต่างที่เกินจาก 1,000 บาท บริษัทจะขอรับผิดชอบในส่วนนี้ โดยผู้เสียหายไม่ต้องจ่ายส่วนเกิน
อย่างไรก็ดี สำนักงาน กสทช. จะแจ้งไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย ดังนี้ ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายต้องเก็บค่าใช้จ่ายตามจริงและไม่เกินยอดที่ลูกค้าจำกัดการใช้ ขอให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายทำหนังสือแจ้งเตือนประชาชน และผู้ปกครองเรื่องสิทธิการจำกัดยอดค่าใช้จ่ายต่อเดือน และขอให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายให้ความรู้ประชาชนและผู้ปกครองเรื่องค่าใช้จ่าย สำหรับการใช้โทรศัพท์มือถือในการโหวตผ่านรายการต่าง ๆ
“สำหรับผู้ปกครองที่ให้เด็กใช้โทรศัพท์มือถือ ผมขอแนะนำว่า ให้แจ้งกับบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายนั้นว่า ขอจำกัดยอดค่าใช้จ่ายต่อเดือนไว้ไม่เกินเท่าไร เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กในภายหลัง” นายฐากร กล่าว