xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรอินทรีย์ช่วยสวนทุเรียนบางพระขายดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้บุกเบิกทุเรียนบางพระ เผยหันมาใช้เกษตรอินทรีย์แล้วดีขึ้น ทางเลือกเพื่อเกษตรกรไทยในอนาคต แม้ปีนี้อากาศจะร้อนจัด ฝนตกน้อย แต่คุณภาพดินที่สมบูรณ์ทำให้ยังมีผลผลิตออกมาขายได้ตามปกติ ยอดสั่งจองมีไม่ขาด

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่สวนทุเรียนป้าเพ็ญศรี ตั้งอยู่ที่ขอบอ่างบางพระ ม.8 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสวนทุเรียนชื่อดังของจังหวัดชลบุรี ที่มีนักท่องเที่ยวต่างติดใจในรสชาติของทุเรียนสวนนี้ ติดต่อขอซื้อกันจนไม่มีวางจำหน่ายที่หน้าร้าน มีแต่ยอดสั่งจองทุเรียนกันเป็นจำนวนมาก แม้อากาศจะผิดปกติส่งผลกระทบต่อชาวสวนทุเรียนในหลายพื้นที่ แต่สวนทุเรียนบางพระ ใช้เกษตรอินทรีย์ทำให้ผลผลิตเป็นปกติ ไม่มีผลกระทบ

นายประสิทธิ์ สายสุวรรณ อายุ 67 ปี เจ้าของสวนทุเรียนป้าเพ็ญศรี เปิดเผยว่า ตนทำสวนผลไม้ปลูกขนุน และทุเรียนในพื้นที่ 17 ไร่ มาตั้งแต่ปี 2526 ปลูกทุเรียนไว้ 3 ชนิดพันธุ์ ได้แก่ กระดุมทอง หมอนทอง และชะนี โดยแต่ก่อนใช้สารเคมีทางการเกษตรจำนวนมาก ปีหนึ่งเสียค่าใช้จ่ายไปกับค่าปุ๋ยค่ายานับแสนบาท จนกระทั่งปี 2547 ผลของการใช้สารเคมีมานานเริ่มออกปรากฏชัดคือ ทั้งดินเสื่อมโทรมอย่างหนัก แมลงศัตรูพืชเข้าทำลายผลผลิต ประกอบกับปีนั้นประสบต่อภัยธรรมชาติ ทุเรียนกว่า 100 ต้น เสียหายทั้งหมด เรียกว่าหมดตัว และเป็นหนี้ค่าปุ๋ยค่ายาอีกเป็นแสนบาท

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอศรีราชา ได้เข้ามาอบรมถ่ายทอดความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์ ตอนแรกก็ยังไม่เชื่อถือ แต่จากการเข้ารับการอบรม และนำมาทดลองในสวนผลไม้ของตนเอง เริ่มจากทำน้ำหมักชีวภาพมาใช้กับต้นทุเรียนที่เป็นโรค ผลปรากฏว่า ต้นทุเรียนเริ่มฟื้น และหายจากโรค จึงเกิดความเชื่อมั่นในการใช้เกษตรอินทรีย์

ต่อมา ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา พื้นที่ทั้ง 17 ไร่ ตนทำเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกทุเรียน ขนุน ลองกอง กล้วยไข่ โดยเลิกใช้สารเคมีทั้งหมด และหันมาใช้ปุ๋ยหมักอินทรีย์ชีวภาพ น้ำหมักชีวภาพสูตรต่างๆ ที่ผลิตเองใช้เอง เช่น น้ำกลอยหมัก น้ำหมักฮอร์โมนผลไม้รวม ซึ่งตนได้ใช้น้ำหมักชีวภาพเพื่อประโยชน์ทั้งการปรับปรุงสภาพดิน เป็นสารป้องกันกำจัดแมลง เร่งการเจริญเติบโตของไม้ผล สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างการใช้สารเคมีกับเกษตรอินทรีย์ คือ เรื่องดิน แต่ก่อนที่ใช้เคมีดินจะแข็ง รดน้ำลงไปน้ำจะไม่ซึมลงดิน ทำให้ดินขาดความชุ่มชื้น ในทางกลับกันเมื่อมีการปรับสภาพดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ น้ำหมักชีวภาพ ดินมีการกักเก็บน้ำได้ดีขึ้น ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ผลผลิตก็ดีตามไปด้วย

แม้แต่ในปีนี้สภาพอากาศที่ร้อน ฝนไม่ตก แต่คุณภาพของดินที่ใช้เกษตรอินทรีย์ ทำให้ผลผลิตยังออกมาตามปกติ ไม่มีโรค แม้จะออกมาน้อยกว่าทุกปีแต่ก็ไม่ต้องตัดลูกตัดต้นทิ้ง ไม่ประสบปัญหาเหมือนบางสวนแถบระยอง และจันทบุรี






กำลังโหลดความคิดเห็น