ประจวบคีรีขันธ์ - เรือประมงลอบปลาเก๋าล่มกลางทะเล ตรงกับหน้าหาดเขากะโหลก อ.ปราณบุรี เมียจมน้ำหาย ผัวเกาะฝากล่องโฟมว่ายน้ำ 5 ชั่วโมงเข้าฝั่งขอความช่วยเหลือ ตำรวจน้ำนำเรือออกค้นหาแต่ยังไม่พบ
เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (11 พ.ค.) นายวิเชาว์ แตงน้อย อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 29 ม.4 ต.อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ตราด ได้เข้าแจ้งความ และขอความช่วยเหลือจาก พ.ต.ท.ประวิท พี่พาณิช สารวัตรตำรวจน้ำปราณบุรี ว่า เรือประมงพื้นบ้านซึ่งเป็นเรือลอบปลาเก๋า ชื่อ สมพงษ์สมุทร ของตนเองประสบอุบัติเหตุเรือล่มกลางทะเล ตรงกับหน้าหาดเขากะโหลก อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากฝั่งประมาณ 2 ไมล์ทะเล เป็นเหตุให้ภรรยาคือ น.ส.จีรวรรณ ภูมณี ซึ่งว่ายน้ำไม่เป็นจมน้ำหายไป
นายวิเชาว์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าเวลา 06.00 น. ตนได้นำเรือออกทะเลพร้อมภรรยาตามปกติ เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุได้จอดเรือ และตนได้ดำน้ำลงไปผูกเชือกกับลอบใต้ทะเลก่อนกลับขึ้นมาบนเรือ จากนั้นภรรยาซึ่งอยู่หัวเรือได้ฟ้านลอบเชือกขึ้นมาเรื่อยๆ จนเรือเริ่มเอียง ตนเห็นผิดปกติจึงร้องตะโกนบอกภรรยาให้หยุด แต่ภรรยาคงไม่ได้ยินยังคงฟ้านลอบขึ้นมาเรื่อยๆ และเรือก็เอียงมากขึ้น ประกอบกับเริ่มมีคลื่นลมแรงขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วได้เกิดคลื่นซัดเรือประมงของตนจนล่มทั้งตน และภรรยาตกจากเรือไปคนละทาง ตนพยายามช่วยเหลือภรรยาเพราะรู้ว่าว่ายน้ำไม่เป็น แต่ช่วยไม่ได้ก่อนภรรยาจมหายไป
เมื่อพยายามหาอยู่นานจนตนอ่อนแรงเกือบจมน้ำทะเล จึงได้คว้าฝากล่องโฟมที่ลอยอยู่ในทะเลได้ แล้วค่อยๆ เกาะฝากล่องโฟมว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง โดยตนไม่พบเรือประมงใดๆ ระหว่างว่ายน้ำเพื่อขอความช่วยเหลือได้เลย และต้องใช้เวลาว่ายน้ำนานกว่า 5 ชั่วโมงจึงถึงฝั่ง แล้วจึงรีบไปแจ้งขอความช่วยเหลือจากตำรวจน้ำให้รีบออกค้นหาภรรยาโดยเร็วที่สุด เผื่อว่าภรรยาจะสามารถเกาะสิ่งของลอยอยู่กลางทะเล และรอดชีวิต
ต่อมา เมื่อเวลา 17.00 น. พ.ต.ท.ประวิท พี่พาณิช สารวัตรตำรวจน้ำปราณบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำนำเรือตรวจการณ์ ต.631 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย และชุดประดาน้ำมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี ออกเรือมุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุโดยเร็ว พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำรถพยาบาลมาคอยสแตนด์บายที่ชายหาดเขากะโหลก เพื่อเตรียมพร้อมรับผู้ประสบเหตุด้วย
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่พบเรือประมงลำที่ล่มในทะเล ประกอบกับมีคลื่นลมแรง ทำให้การค้นหายากลำบาก แต่พบเพียงร่องรอยคราบน้ำมันลอยอยู่เท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่จะได้ทำการวางทุ่นเพื่อมาร์กจุดไว้ และเตรียมส่งนักประดาน้ำดำลงไปตรวจสอบว่าใช่จุดเกิดเหตุหรือไม่