เชียงราย - ชาวบ้านชุมชนชายแดนแม่สาย รวมตัวขึ้นศาลากลาง ร้องผู้ว่าฯสั่งเลื่อนประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ โครงการบ่อบำบัดน้ำเสียยักษ์มูลค่า 260 ล้าน ที่มีปัญหายืดเยื้อมานานหลายปี ขอดึงกรรมการสิทธิ์ฯร่วมเป็นกรรมการ-ย้ายพ้นพื้นที่
วันนี้ (10 พ.ค.) นายจตุรวิชช์ ดอกไม้ ประธานกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อ.แม่สาย , นายประสิทธิ์ ชุ่มอุ่น ผู้ใหญบ้านเหมืองแดง พร้อมชาวบ้านเหมืองแดง ม.2 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย และหมู่บ้านข้างเคียง ซึ่งล้วนตั้งอยู่หน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัด
ทั้งนี้ เพื่อยื่นหนังสือต่อนายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ขอให้มีการเลื่อนการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อรับฟังปัญหาและไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียของเทศบาล ต.แม่สาย ที่กำหนดจะจัดประชุมในวันที่ 11 พ.ค.นี้ ณ ที่ว่าการ อ.แม่สาย
นายจตุรวิชช์กล่าวว่า ตามโครงการของ ทต.แม่สาย พื้นที่บ่อบำบัดส่วนใหญ่อยู่ในเขตโครงการชลประทานเหมืองแดง เริ่มต้นดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2556 ด้วยงบกระทรวงทรัพย์ฯ ประมาณ 260 ล้านบาท แต่ทางชาวบ้านต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในการประชุมหารือต่างๆ มากขึ้น รวมทั้งให้ย้ายโครงการไปยังสถานที่อื่นที่เหมาะสม จึงมีการมีการฟ้องร้องไปยังศาลปกครอง ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ในชั้นศาลปกครองสูงสุด รวมทั้งยื่นขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ด้วย ทำให้การก่อสร้างยืดเยื้อเรื่อยมา
แต่ต่อมากลับพบว่ามีการนัดประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจดังกล่าว โดยมีสัดส่วนชาวบ้านเข้าร่วมแค่ 5 คน ที่เหลือประมาณ 17 คน มีแต่ตัวแทนภาครัฐ ประกอบด้วย นายอำเภอเป็นประธาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ซึ่งเห็นว่าเป็นสัดส่วนที่ไม่เป็นธรรม จึงต้องการให้เลื่อนออกไปและปรับสัดส่วนนักวิชาการเข้าร่วมมากขึ้นด้วย
นายจตุรวิชช์กล่าวอีกว่า ที่จริงชาวบ้านไม่ได้คัดค้านโครงการนี้ แต่อยากให้ย้ายไปยังสถานที่ที่เหมาะสม เพราะจุดที่ตั้งเป็นจุดที่มีน้ำท่วมขังเป็นประจำ โดยเฉพาะเมื่อลำน้ำสายชายแดนไทย-พม่าเอ่อล้นขึ้นมา นอกจากนี้ทางโครงการฯ ยังจะสร้างคันดินสูงขึ้นมาอีก จึงกังวลกันว่าจะกลายเป็นเขื่อน ทำให้ปัญหาน้ำท่วมหนักหนายิ่งขึ้น รวมทั้งยังกังวลเรื่องปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม มลภาวะทางกลิ่น เสียง ฯลฯ ด้วย
ด้านนายประสิทธิ์กล่าวว่า ประชากรหมู่บ้านเหมืองแดงมีไม่น้อยกว่า 2,500 คน ไม่รวมประชากรแฝง ปัจจุบันโครงการได้เริ่มดำเนินการในพื้นที่รอบนอกของหมู่บ้านเหมืองแดงไปบ้างแล้ว โดยมีการวางท่อ และอื่นๆ แต่เมื่อจะเข้าไปก่อสร้างในเขตหมู่บ้าน ก็จะมีชาวบ้านออกมาต่อต้านทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ กระทั่งมีการจัดประชุมเพื่อไกล่เกลี่ยจนทำให้ชาวบ้านมาร้องขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ดังกล่าว
ต่อมานายบุญส่งได้เข้ารับเรื่องจากชาวบ้านพร้อมรับปากว่าจะให้เลื่อนประชุมคณะกรรมการฯ ดังกล่าวไปก่อน โดยในระหว่างนี้ให้ชาวบ้าน ไปหารือกับทางนายอำเภอแม่สายเพื่อกำหนดวันเวลาใหม่อีกครั้ง รวมทั้งให้พิจารณาเรื่องจะให้องค์กรอื่น โดยเฉพาะนักวิชาการจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเข้ามาส่วนร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม นายบุญส่ง ยังย้ำด้วยว่า มีความจำเป็นต้องสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ อ.แม่สาย เพราะมีสภาพเป็นชุมชนหนาแน่น มีปริมาณน้ำเสียมากขึ้น จึงต้องจัดหาสถานที่รองรับด้วย ซึ่งชาวบ้านก็พอใจและแยกย้ายกันกลับ
สำหรับโครงการฯนี้ มีพื้นที่ดำเนินการครอบคลุมพื้นที่ ม.1 ม.2 ม.7 และ ม.10 ต.แม่สาย แต่มีปัญหายืดเยื้อมาหลายปี เคยมีชาวบ้านออกมาประท้วงต่อต้าน ขึ้นป้ายคัดค้านโครงการ ฯลฯ มาอย่างต่อเนื่อง จนถึงขั้นฟ้องร้องผู้บริหารเทศบาล ต.แม่สาย ต่อศาลปกครองมาแล้ว