ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- คลี่ปมเบื้องหลังปิดตาย “โรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์โฮเทล” กลางเมืองโคราช 300 ล้าน จบสิ้นตำนาน 20 ปีความสุขเคียงคู่เมืองย่าโม เหตุหนี้ล้น SAM เข้ายึดกิจการ เผยปรับโครงสร้างหนี้มานานนับ 10 ปี สุดท้ายไปไม่รอด ตระกูล “พฤกษ์พนาเวศ” เจ้าของต้องทิ้งกิจการยอมโอนทรัพย์สินชำระหนี้ทั้งหมด
หลังโรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในแวดวงนักธุรกิจเมืองโคราชเป็นอย่างมาก หลายคำถามที่ยังไร้คำตอบโดยเฉพาะสาเหตุอันแท้จริงของการปิดตายกิจการครั้งนี้ของตระกูล “พฤกษ์พนาเวศ” เจ้าของ และผู้ก่อตั้งโรงแรมแห่งนี้ขึ้นมายาวนานถึง 20 ปี คืออะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา พยายามค้นหาคำตอบในเรื่องดังกล่าวโดยรวบรวมข้อมูลอย่างรอบด้าน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ พบว่า บริเวณโรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล มีการนำป้ายขนาดใหญ่ระบุข้อความ “ขออภัยในความไม่สะดวกโรงแรมอยู่ระหว่างการปรับปรุงซ่อมแซม งดใช้ทางเข้า-ออกเพื่อป้องกันการเกิดอันตราย” พร้อมนำแผงเหล็กมากั้นประตูเข้า-ออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดย หจก.ป้องกันภัย
จากการสอบถามทราบว่า ได้รับจ้างจากบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) ให้เข้ามาดูแลความเรียบร้อยโรงแรมดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งการเข้าออกโรงแรมขณะนี้จะต้องมีการตรวจเข้มทุกคน พร้อมไม่ให้มีการขนย้ายทรัพย์สินใดๆ ออกจากโรงแรมอย่างเด็ดขาด
ส่วนภายในอาคารโรงแรมมีพนักงานของบริษัท โปรแอคทีฟ แมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบภายในเข้ามาตรวจสอบดูแลระบบไฟฟ้า รวมถึงระบบต่างๆ ของโรงแรมให้มีการใช้งานได้ตามปกติ เพื่อรักษาระบบให้ทำงานต่อไปเสมือนโรงแรมยังเปิดให้บริการตามปกติ นอกจากนี้ ทาง SAM ยังว่าจ้างแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดภายในโรงแรมเป็นประจำด้วย
ขณะที่ นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลหนองไผ่ล้อม ซึ่งเป็นทายาทคนโตของตระกูล “พฤกษ์พนาเวศ” เจ้าของโรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในบัญชีส่วนตัว “Paiboon Lim” พร้อมภาพเจ้าตัวยืนยกมือไหว้อยู่ด้านหน้าอาคารโรงแรม
ระบุข้อความว่า “ผมและครอบครัวกราบขอบพระคุณผู้มีอุปการคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน โรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล มาตลอด 20 ปี เราได้เปิดบริการมาด้วยความมุ่งมั่นในคำว่า ความสุขเคียงคู่เมืองโคราช ครับเมื่อโอกาสที่เหมาะสมมาถึง พวกเราจึงตัดสินใจร่วมกันที่จะเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ เพื่อจะได้สร้างสรรค์สิ่งที่ดีๆ ขึ้นใหม่ ผมในนามครอบครัวราชพฤกษ์ขอกราบขอบพระคุณเป็นครั้งสุดท้าย..ครับ แล้วพบกันใหม่ เร็วๆ นี้ครับ ลาก่อนราชพฤกษ์ ตำนานความสุขเคียงคู่เมืองโคราช...”
นายไพบูลย์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมเพียงสั้นๆ ด้วยเหตุไม่ต้องการให้เป็นข่าวว่า ไม่อยากให้เรื่องการปิดโรงแรมครั้งนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง หรือประเด็นทางธุรกิจ และทุกอย่างได้บอกผ่านทางเฟซบุ๊กไปทั้งหมดแล้ว พร้อมย้ำว่า เมื่อมีโอกาสที่ดีเราก็ต้องก้าวไป ขอขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนโรงแรมมาตลอด 20 ปี ซึ่งตนไม่ได้เข้าไปบริหารงานโรงแรมมานานพอสมควรแล้วตั้งแต่ไปรับตำแหน่งทางการเมือง เพราะต้องลาออกจากทุกตำแหน่งทางธุรกิจปล่อยให้ครอบครัวบริหารงานกันเอง และเชื่อว่าสิ่งที่ตัดสินใจในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
แหล่งข่าวระดับสูงในแวดวงธุรกิจเมืองโคราชหลายรายให้ข้อมูลตรงกันว่า โรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล ได้กู้ยืมเงินจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประมาณ 300 ล้านบาท (ยังไม่รวมดอกเบี้ย) มาก่อสร้าง และดำเนินกิจการโรงแรม โดยมีที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งทางผู้ประกอบการได้หยุดชำระหนี้แก่ธนาคารกรุงไทย สุดท้ายจึงกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จากนั้นธนาคารพยายามให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการแต่สถานการณ์กลับไม่ดีขึ้น
ทางธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จึงโอนหนี้ไปให้บริษัทหลักทรัพย์ในเครือ และอีกหลายบริษัท ก่อนโอนต่อมายัง บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) เมื่อประมาณ 7-8 ปีก่อน โดยผู้ประกอบการได้เสนอขอดำเนินธุรกิจต่อไป แต่ระยะหลังหนี้ และสินทรัพย์ด้อยค่าลงเรื่อยๆ เนื่องจากไม่มีการปรับปรุง (Renovate) โรงแรมแต่อย่างใด มูลค่าจึงเหลืออยู่ประมาณ 250 ล้านบาท กระทั่งล่าสุด ทาง SAM ได้ดำเนินการยึดคืนไปในราคาประมาณ 220 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2559
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประจำศูนย์ภาคอีสานของ SAM กล่าวว่า เนื่องจากทาง SAM เพิ่งได้สินทรัพย์นี้มาจึงยังไม่ได้กำหนดราคาขาย ซึ่งเมื่อมีการกำหนดราคาขั้นต่ำแล้วทางบริษัทฯ ก็จะเปิดโอกาสให้ผู้สนใจยื่นซองประมูลเข้ามา โดยคาดว่าจะสามารถประกาศขายได้ในต้นเดือน ก.ค. ปีนี้ และกำหนดเปิดประมูลขายในเดือน ส.ค.2559
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า การปิดตายโรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล ครั้งนี้ ทางผู้บริหารโรงแรมคือ ตระกูล “พฤกษ์พนาเวศ” ได้ตีมูลค่าทรัพย์สินชำระหนี้สินทั้งหมด และไม่มีภาระผูกพันหนี้สินใดๆ เกิดขึ้นในภายหลัง ซึ่งกิจการทั้งหมดของโรงแรมได้ตกเป็นของ SAM โดยสมบูรณ์ ซึ่งการประกาศขายทรัพย์สินต่างๆ ขึ้นอยู่กับทาง SAM จะเป็นผู้กำหนด ส่วนจะได้ราคามากกว่ามูลค่าที่ตีโอนทรัพย์สินก็ไม่เกี่ยวข้องต่อเจ้าของเดิม
ทั้งนี้ โรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล ประสบปัญหาทางการเงินมาตั้งแต่ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ปี 2540 ต่อมา SAM ได้เข้าไปรับโอนหนี้ กระทั่งเข้าสู่การปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีการโอนหนี้ NPL ไปให้บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) เป็นผู้ดูแลเมื่อปี 2544 จากนั้น บสท.ได้ปิดตัวลงจึงโอนหนี้กลับมาให้เจ้าของเดิม คือ SAM และมีการตกลงโดยเจ้าของเดิมขอบริหารจัดการต่อ แต่เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการชำระหนี้ จึงนำมาสู่การปิดกิจการของโรงแรมโดยลูกหนี้สมัครใจที่จะโอนทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ให้แก่ SAM ทั้งหมดดังกล่าว
สำหรับโรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล ดำเนินกิจการโดย นายธีระ-นางนงลักษณ์ พฤกษ์พนาเวศ ซึ่งมีทายาท 4 คน ได้แก่ 1.นายไพบูลย์ (ท็อป) พฤกษ์พนาเวศ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลหนองไผ่ล้อม 2.นายองอาจ (โจ้) พฤกษ์พนาเวศ ส.อบจ.นครราชสีมา อำเภอเมืองนครราชสีมา เขต 3 3.นางธนานันท์ (เปิ้ล) อาจหาญ และนายพสิษฐ์ (จะเด็ด) พฤกษ์พนาเวศ
โดยเริ่มเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2539 และปิดกิจการลงในวันที่ 18 เมษายน 2559 รวม 20 ปี ที่ผ่านมา ดำเนินธุรกิจในนามบริษัท ราชสีมานครทิพย์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2527 ด้วยทุน จำนวน 250 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 311 ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา
ประกอบธุรกิจโรงแรมในนาม “ราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล” โดยมีกรรมการ ประกอบด้วย 1.นายธีระ พฤกษ์พนาเวศ 2.นางนงลักษณ์ พฤกษ์พนาเวศ 3.นายพสิษฐ์ พฤกษ์พนาเวศ 4.นายประสิทธิ์ วัฒนาทรพิทักษ์ และ 5.น.ส.ริญญาภัทร์ ศิริรัชธนานนท์
