xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ แปดริ้วประกาศมาตรการเข้มเอาผิดแก๊งโบก รถโขกทรัพย์วัดโสธรฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - ผู้ว่าฯ เมืองแปดริ้ว เรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมสางปัญหาแก๊งโบกรถ โขกทรัพย์ประชาชนรอบวัดโสธรฯ พร้อมประกาศใช้มาตรา 13 ตามประกาศ คสช.เข้าจัดการตั้งแต่ระดับเบาไปจนถึงหนัก ส่วนในช่วงเทศกาลสำคัญจะจัดตั้งศูนย์บัญชาการที่มีกำลังผสมหลายฝ่ายเข้าตรวจตราป้องกันปัญหาซ้ำซาก



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (3 พ.ค.) นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เปิดห้องแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังเรียกประชุมหารือผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย

ประกอบด้วย เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ทหารจากกองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า และทหารค่ายศรีโสธร ช.พัน 2 รอ. ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พาณิชย์จังหวัด รวมทั้งผู้แทนจากนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ตลอดจนส่วนราชการอื่นๆ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาแก๊งโบกรถที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชนที่ต้องการเดินทางมากราบไหว้ และขอพรจากองค์หลวงพ่อโสธร

โดย นายอนุกูล กล่าวว่า สาเหตุที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่เดินทางมายังวัดโสธรวรารามวรวิหาร มี 2-3 ประเด็น คือ ประเด็นแรกมีผู้ที่เข้าไปเรียกโบกรถเพื่อพาไปสู่ที่จอด พร้อมบังคับขายสินค้า เช่น พวงมาลัย และดอกไม้ธูปเทียนที่มีราคาที่แพงกว่าปกติ ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย แต่กลับมีอัตราสูงสุดเพียงปรับแค่ 500 บาท ขณะที่การขายสินค้าเกินราคามีโทษปรับไม่เกิน 400 บาท จึงทำให้ผู้กระทำผิดไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

และในส่วนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำประวัติบุคคลไว้ และยังได้หารือกับกองพลทหารราบที่ 11 ว่า หากมีผู้ก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนรำคาญ และขายสินค้าเกินราคาแบบซ้ำซากจะใช้มาตรการตามประกาศ คสช. มาตรา 13 โดยให้ทหารนำตัวไปอบรม หรือควบคุมไว้ภายในค่ายทหารได้ไม่เกิน 7 วัน

ส่วนประเด็นที่ 2 คือ ปัญหาเรื่องการจอดภายในอาคารจอดรถ 5 ชั้นของทางวัดฯ ซึ่งมีบุคคลที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวนำรถมาจอดทิ้งไว้แบบถาวร จนทำให้ผู้ที่มาเยือนไม่สามารถนำรถเข้าจอดได้ ซึ่งจากนี้จะได้สำรวจดูว่ามีรถที่ถูกนำมาจอดทิ้งไว้จำนวนกี่คัน และขอความร่วมมือให้เจ้าของรถ ย้ายรถออกตามระยะเวลาที่แจ้งให้ย้าย แต่หากไม่มีการย้าย ทหารก็จะทำการเคลื่อนย้ายไปไว้ยังค่ายทหาร ช.พัน 2 รอ.เป็นการชั่วคราว

ประเด็นสุดท้ายคือ เรื่องบุคคลที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งมีทั้งบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ และนอกพื้นที่ ซึ่งการตรวจสอบพบว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวมีการทำกันเป็นขบวนการเพื่อชักจูงประชาชนให้ซื้อดอกไม้ธูปเทียนจากร้านต่างๆ และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บประวัติ และ ตรวจสอบเพิ่มเติมแล้ว

“ส่วนมาตรการแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้น ต่อไปในช่วงของเทศกาลวันหยุดยาวจะมีการตั้งศูนย์บัญชาการภายในบริเวณวัด ซึ่งก็จะจัดกำลังผสมร่วมกันทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ พลเรือน และฝ่ายปกครอง เข้าไปตรวจตรา และหากว่ายังคงมีการโบกรถก็จะจับกุมตัวมาดำเนินคดีในทันที และหากพบว่า ร้านค้าใดมีส่วนร่วมในการสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนก็จะขอให้ทางวัดนั้นมีมาตรการในการจัดการต่อร้านค้านั้นๆ ด้วย” นายอนุกูล กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น