xs
xsm
sm
md
lg

จับตา! นัดสุดท้ายเวทีฟังความเห็นผู้มีส่วนได้-เสีย ก่อนดันประทานบัตรเหมืองโปแตชอุดร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

(แฟ้มภาพ)ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์อุดรธานีเคลื่อนไหวต่อต้านโครงการเหมืองโปแตซมาหลายสิบปีเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จับตา! 23 เม.ย.นี้นัดสุดท้ายเวทีรับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้-เสียโครงการเหมืองแร่โปแตชอุดรธานี ก่อนชง คกก.พ.ร.บ.แร่-เจ้ากระทรวงอุตฯ ลงนามอนุมัติประทานบัตร เผยเตรียมกำลังทั้งทหาร ตำรวจ อส.คุมเข้มสถานการณ์บริเวณที่จัดประชุม พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ลงบล็อกแกนนำชาวบ้านกลุ่มต้านห้ามเคลื่อนไหว

รายงานข่าวแจ้งว่า เวลา 09.00-12.00 น. ในวันที่ 23 เม.ย. 59 ที่หอประชุมโรงเรียนโนนสูงพิทยาคาร ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี คณะกรรมการจัดการรับฟังความคิดเห็นเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียในโครงการเหมืองแร่โปแตช จังหวัดอุดรธานี คำขอประทานบัตรที่ 1-4/2547 ของบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยมีนายสมหวัง พ่วงบางโพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธาน ได้กำหนดเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียฯ ตามมาตรา 88/7 แห่ง พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2510 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.แร่ (ฉบับที่ 5) ขึ้น

เวทีเปิดรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้เสียจากโครงการฯ ดังกล่าวถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ประชาชนในพื้นที่ และผู้มีส่วนได้เสียจะได้มีส่วนร่วมตามขั้นตอนของกฎหมายแร่ เพราะหลังจากนั้นก็จะมีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเสนอเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาให้ความเห็นของคณะกรรมการตาม พ.ร.บ.แร่ และรัฐมนตรีอุตสาหกรรมลงนามในประทานบัตร ตามลำดับ

ขณะเดียวกันข่าวแจ้งอีกว่า ในพื้นที่ก็มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยแหล่งข่าวระบุว่าเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อำนวย จุลโนนยาง ผบ.มทบ.24 ได้เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทหาร ตำรวจ อส. ซึ่งมีหน้าที่รักษาความสงบในงาน เข้าร่วมประชุมในค่าย มทบ. 24 ซึ่งเรียกว่า “การประชุมยุทธการ” เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ และไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวและบุคคลภายนอกเข้าร่วมรับฟัง

แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า การควบคุมสถานการณ์ในวันดังกล่าวจะเป็นไปอย่างเข้มงวด โดยจะใช้มาตรฐานระดับเดียวกันกับการจัดเวทีประชาคมในค่ายทหารพระยาสุนทรธรรมธาดาเมื่อปีที่แล้ว เพียงแต่คราวนี้จะมีทหารมาคอยเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ประมาณ 1 กองร้อย แต่เน้นกำลังตำรวจ และ อส.เป็นหลักในการดูแลและควบคุมเหตุการณ์

“โดยเฉพาะตำรวจจะมีการระดมกำลังจากทุกอำเภอ มีกองร้อยควบคุมฝูงชนจาก ตชด. และหน่วย EOD ซึ่งหากมีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้นก็พร้อมที่จะจับกุมแกนนำทันที” แหล่งข่าวกล่าว และว่า

ประกอบกับอาศัยอำนาจของรัฐบาลที่มีอยู่ล้นมือ ในสถานการณ์ที่บ้านเมืองไม่ปกติ และไม่ฟังเสียงคัดค้านของประชาชนในพื้นที่ แต่เปิดไฟเขียวให้กับภาคเอกชนในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม

ในส่วนของฝ่ายข้าราชการเองก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน ซึ่งหากไม่ฉกฉวยโอกาสผลักดันประทานบัตรเหมืองโปแตชอุดรฯ ให้ได้ในสมัยนี้ต่อไปก็คงต้องรออีกยาว ไม่สามารถผลักดันให้โครงการเกิดขึ้นได้ง่ายนัก

แหล่งข่าวยังเปิดเผยอีกว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมาฝ่ายทหารได้เริ่มตั้งจุดตรวจบนถนนมิตรภาพอุดรฯ-ขอนแก่น (ส่วนขยาย) บริเวณด้านหน้าโรงเรียนชุมชนโนนสูง ส่วนทางโรงเรียนโนนสูงพิทยาคารก็เริ่มมีการจัดเตรียมสถานที่หอประชุม พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV ในบริเวณโดยรอบและจุดที่สำคัญ นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดเตรียมห้องวอร์รูมสำหรับเฝ้าคอยติดตามเพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอีกด้วย

จากข้อมูลที่ได้รับรายงาน ทราบว่าภายในหอประชุมจะมีการจัดที่นั่งประมาณ 500 ที่ สำหรับผู้มีส่วนได้เสีย และตั้งเต็นท์ด้านนอกสำหรับรองรับประชาชนผู้สนใจทั่วไปและผู้มีส่วนได้เสียที่ไม่สามารถเข้าไปภายในหอประชุมได้อีกประมาณ 500 คน รวมแล้ว ประมาณ 1,000 คน

“ทางบริษัทฯ ฝ่ายนายทุนก็ได้วางแผนเอาไว้แล้วว่าจะเอาคนของเขานั่งด้านในตรงไหนบ้างให้เต็ม 500 ที่ แต่ถ้ากลุ่มอนุรักษ์ฯ จะเข้าร่วมเขาก็จะเตรียมที่นั่งไว้ให้บางส่วน โดยที่เหลือต้องอยู่ด้านนอก” แหล่งข่าวระบุ

ด้านนางมณี บุญรอด แกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กลุ่มชาวบ้านที่ต่อต้านการลงทุนโครงการเหมืองโปแตชอุดรธานี กล่าวยอมรับว่า ในช่วง 2-3 วันนี้ตนและแกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีหลายคนถูกตำรวจโทรศัพท์มาติดตามสอบถามความเคลื่อนไหวของกลุ่มชาวบ้านเป็นระยะๆ แกนนำหรือชาวบ้านบางราย เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปหาถึงบ้านเพื่อพูดคุยและปรามไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน

แม้แต่สถานที่ในวัดที่ใช้สำหรับนัดหมายปรึกษาหารือของกลุ่มชาวบ้านตามปกติก็ถูกตำรวจขับรถมาเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ทุกวัน ชาวบ้านแทบจะขยับตัวไปไหนมาไหนไม่ได้ ถูกตามประกบตลอด
(แฟ้มภาพ)
(แฟ้มภาพ)
กำลังโหลดความคิดเห็น