ระยองจัดเวทีให้ “ไออาร์พีซี” ชี้แจงการแก้ปัญหาหลังส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้าน

ระยอง - จังหวัดระยอง จัดเวทีให้โรงงานไออาร์พีซี ชี้แจงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกระบวนการผลิต หลังชาวบ้านสุดทนเหม็นกลิ่นไอน้ำมัน เสียงดัง ควันดำ ทำหนังสือร้องเรียนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านชาวบ้านเรียกร้องให้ไออาร์พีซีซื้อที่ดิน หวังหนีไปอยู่ที่อื่น

วันนี้ (22 เม.ย.) ที่อาคารอเนกสโมสรบ้านพัก (เฮ้าส์ซิ่ง) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง นายธีรวัฒน์ สุดสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานการแก้ไขปัญหากรณีราษฎร 4 ตำบล รอบเขตประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้รับความเดือดร้อนจากการดำเนินโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันหนัก (UHV) จากการเดินเครื่องจักร เรื่องเสียง เปลวไฟแสงสว่าง และควันดำที่หอเผา และกลิ่นไอน้ำมัน ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเขตชุมชน ต.เชิงเนิน ต.ตะพง ต.บ้านแลง และ ต.นาตาขวัญ

โดยมีผู้แทนบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมชี้แจง ประกอบด้วย นายพงศ์ประพันธ์ ฐิตะทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) นายแสงจันทร์ ผานิล ผู้จัดการฝ่ายสิ่งแวดล้อมไออาร์พีซี พร้อมด้วยผู้จัดการโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันหนัก

โดยมีหน่วยงานราชการ ประกอบด้วย อุตสาหกรรม จ.ระยอง ผู้แทนสำนักงานสาธารณสุข จ.ระยอง ผู้แทนกรมโรงงานอุตสาหกรรม ผู้แทนกรมควบคุมมลพิษ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ระยอง ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 ชลบุรี นายอินทรีย์ เกิดมณี นายอำเภอเมืองระยอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฯ มีนางกาญจนา บุญระยอง นางอำภา บุญระยอง และนางกิ่งกาญจน์ บุญระยอง 3 พี่น้องตระกูลบุญระยองเท่านั้น

ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ไม่เข้าร่วมรับฟัง เนื่องจากแจ้งว่าไม่มั่นใจต่อการประชุมในครั้งนี้ เนื่องจากทางกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดได้มีการเตรียมงานพร้อมทั้งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งทางไออาร์พีซี เข้าชี้แจงในวันที่21 ที่บริเวณข้างโรงงานอุตสาหกรรมที่เกิดมีปัญหา แต่กลับให้มีการเปลี่ยนสถานที่ และเปลี่ยนวันชาวบ้านจึงไม่มั่นใจ และไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรจึงมีการเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ นายพงศ์ประพันธ์ ฐิตะทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้มีมาตรการเฝ้าระวัง และป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชุมชน มีการตรวจวัดคุณภาพอากาศ 9 สถานี ตรวจวัดระดับเสียงในชุมชนในรัศมี 1-2 กม. ตรวจวัดคุณภาพในแหล่งน้ำธรรมชาติ และจุดระบายน้ำทิ้งเขตประกอบการฯ เปิดเผยข้อมูล และความคืบหน้าของโครงการแก่ชุมชน และผู้มีส่วนได้เสียหลายช่องทาง

ในช่วงการปรับจูนเครื่องจำเป็นต้องระบายก๊าซออกไปกำจัดทิ้งที่หอเผา ทำให้เกิดแสงไฟสว่าง ควัน เสียง และกลิ่น ซึ่งทางบริษัทฯ ได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังป้องกันผลกระทบ โดยจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวัง 2 ศูนย์ จัดเจ้าหน้าที่บริษัทฯ และตัวแทนชุมชนประจำศูนย์พร้อมมีการลาดตระเวน 24 ชม. จัดหน่วยแพทย์ออกตรวจสุขภาพในพื้นที่กลุ่มเสี่ยง เป็นต้น

ด้าน นางกาญจนา บุญระยอง ชาวบ้าน หมู่ 6 ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง อดีตพยาบาล ปัจจุบันข้าราชการบำนาญ บ้านพักอยู่ห่างโรงงานประมาณ 800 เมตร กล่าวว่า ตนมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจได้รับผลกระทบเรื่องฝุ่นละอองจากการถมดินปรับพื้นที่ตั้งแต่เริ่มโครงการ หลังก่อสร้างโรงงานเสร็จเริ่มเดินเครื่องจักร เหม็นกลิ่นน้ำมัน แก๊ส ควันดำ ทุกวันนี้อยู่แบบไม่เป็นปกติสุข ได้รับผลกระทบเรื่องกลิ่นเหม็น เสียงดัง ควันดำ ขอให้โรงงานมีความรับผิดชอบชาวบ้านที่อยู่รอบโรงงาน ความต้องการของเรา คือ เมื่อเราอยู่ไม่ได้แล้วขอให้ทางโรงงานพิจารณาซื้อที่ดินของพวกเรา จะได้ไปอยู่ที่อื่น

นางอำภา บุญระยอง กล่าวว่า ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันเหมือนคนอื่น ตนมีโรคประจำตัวหลายโรค แต่ไม่เป็นโรคปอด ปัจจุบันนี้ตรวจพบเป็นโรคหลอดลมตีบ มีจุดดำในปอด อยากจะบอกไปถึงผู้บริหารโรงงานพาครอบครัวมาทดลองพักอยู่ที่บ้านสักเดือนหนึ่ง ตนพร้อมจะดูแลให้เป็นอย่างดี จะได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนของชาวบ้าน

ด้าน นางกิ่งกาญจน์ บุญระยอง กล่าวว่า อยากทราบว่า โรงงานปล่อยสารอะไรออกมาบ้าง และมีผลกระทบต่อสุขภาพชาวบ้านอย่างไร หากรู้ล่วงหน้าให้รีบแจ้งชาวบ้านจะได้หาทางป้องกันก่อน ส่วนเรื่องโรงงานจัดตั้งกองทุนเยียวยาชาวบ้านนั้นเป็นเรื่องปลายเหตุ สรุปว่า อยากได้การดำเนินการแก้ไขปัญหา และระยะเวลาที่ชัดเจน