ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประชุมร่วมหน่วยงานในสังกัดและตัวแทน 9 จังหวัดภาคเหนือ ติดตามสถานการณ์ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เผยเบื้องต้นพอใจภาพรวมผลการร่วมกันทำงานในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ ทำให้ปัญหาลดลงจากปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด สั่งจับตาใกล้ชิดต่อเนื่องแม้พ้นช่วง 60 วันห้ามเผา พร้อมเล็งแผนระยะยาวแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
วันนี้ (8 เม.ย. 59) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดเชียงใหม่ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันแห่งชาติแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2559 โดยมีผู้บริหารหน่วยงานสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ตัวแทนกองทัพภาคที่ 3 และตัวผู้ว่าราชการจังหวัด 9 ภาคเหนือตอนบน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหา
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระบุในระหว่างการประชุมว่า ที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหา และได้กำชับทุกหน่วยงานให้ดำเนินการอย่างเต็มที่และเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เสนอแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ปี 2559 เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี สำหรับใช้เป็นกรอบแนวทางในการดำเนินงานทั้งระดับชาติ และระดับพื้นที่ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกลางให้ 9 จังหวัดภาคเหนือดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ
นอกจากนี้ ตามแผนปฏิบัติการฯ ได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ (ศอ.ปกป.) 3 ระดับ คือ ระดับชาติ ระดับภาค และระดับจังหวัด เพื่อเป็นกลไกหลักกำกับดูแล ประสานงาน และสั่งการในการแก้ไขปัญหา ซึ่งในวันนี้ได้มาติดตามความก้าวหน้าและเปิดโอกาสให้หน่วยงานได้นำเสนอแผนงานต่างๆ หากมีปัญหาอุปสรรค จะได้ร่วมกันแก้ไข เนื่องจากยังมีจุดความร้อนกระจายอยู่หลายจังหวัด เป็นระยะๆ ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ขอความร่วมมือในการงดการเผาป่าและเศษวัสดุการเกษตรอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2559 หรือจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะเดียวกัน พล.อ.สุรศักดิ์เปิดเผยหลังการประชุมว่า จากการทำงานร่วมกันป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในปีนี้ เบื้องต้นมีความพึงพอใจผลการทำงานที่ทำให้ปัญหาต่างๆ ลดลงจากปีที่ผ่านมาพอสมควร แต่เนื่องจากว่าในช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงที่อากาศร้อน และมีความแห้งแล้ง ทำให้ยังมีโอกาสเสี่ยงที่อาจจะเกิดไฟป่าได้ จึงได้สั่งการให้ยังคงเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าอยู่ในพื้นที่ต่อไป และหลังจาก 60 วันของการห้ามเผาหมดลงไป ก็ยังคงให้ทางหน่วยงานในพื้นที่คอบสอดส่องดูแลไม่ให้มีการเผาต่อไป และถ้ามีการเผาก็ให้นายอำเภอแต่ละท้องที่เข้าไปบริหารจัดการเรื่องการเผาโดยไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงเช่น เชียงรายและแม่ฮ่องสอน เป็นต้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวด้วยว่า จากนี้ไปจะต้องมีการมองไปสู่การแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าอย่างยั่งยืน เพราะในปีนี้ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจถึงปัญหาและวิธีการจัดการแล้ว ดังนั้นก็จะต้องมุ่งไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เช่น การสร้างฝาย การสร้างพื้นที่ชุ่มน้ำให้มากขึ้น สร้างความเข้าใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเผาของประชาชน นอกจากนี้ในปีหน้าก็จะมีการกำหนดพื้นที่การเผาที่จะไม่ให้มีการเผาในที่ราบไม่ว่าในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น