ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดโครงการฝีกร่วมการจำลองสถานการณ์ในการควบคุมไฟป่า ระดมกำลังพลหลายหน่วยงาน 800 นาย พร้อมอุปกรณ์ครบครัน จำลองสถานการณ์ไฟป่าเหมือนจริงรุนแรง 3 ระดับ แล้วฝึกซ้อมการเข้าดับทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ หวังเพิ่มทักษะและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์จริงเพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ
วันนี้ (25 ก.พ. 59) ที่กองพลทหารราบที่ 7 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฝีกร่วมการจำลองสถานการณ์ในการควบคุมไฟป่า ซึ่งกรมป่าไม้, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, สำนักการบินอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ, กองทัพอากาศ, กองทัพภาคที่ 3, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่า ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายและผลกระทบจากการเกิดไฟป่า ด้วยการฝึกปฏิบัติระดมพลเข้าทำการควบคุมดับ โดยการจำลองสถานการณ์เสมือนจริง 3 ระดับ ทั้งสถานการณ์ปกติ, สถานการณ์รุนแรง และสถานการณ์วิกฤต ซึ่งการฝึกครั้งนี้มีการระดมกำลังพลจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมทั้งสิ้น 800 นาย พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ทำการซักซ้อมการประสานงานและสาธิตการควบคุมไฟป่าทั้งทางภาคพื้นดินและทางอากาศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า การฝึกซ้อมการจำลองสถานการณ์ในการควบคุมไฟป่าครั้งนี้เป็นการฝึกทักษะให้กับเจ้าหน้าที่ และกำลังพล รวมไปถึงการตรวจสอบขีดจำกัดของอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมไฟป่า และการประสานงานของหน่วยงานต่างๆ เพื่อในกรณีที่หากเกิดเหตุการณ์ไฟป่า ทุกหน่วยจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์ และประสบผลสำเร็จ
ทั้งนี้ ยอมรับว่าในช่วงนับจากนี้ไปสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนืออาจจะมีแนวโน้มที่รุนแรงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนที่จะแห้งแล้งขึ้น ทำให้จะต้องมีการเฝ้าระวังมากเป็นพิเศษยิ่งขึ้นด้วยและจะต้องมีการลงพื้นที่ชุมชนต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจและการขอความร่วมมือในการงดเผาเศษผลผลิตทางการเกษตรและวัชพืช ซึ่งถ้าหากยังคงมีการลักลอบเผา ทางเจ้าหน้าที่จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม
แต่ทั้งนี้ยังคงเชื่อมั่นว่าจากการทำงานอย่างเต็มที่ต่อเนื่องจะส่งผลให้โดยภาพรวมสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าในปีนี้น่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และไม่เลวร้ายถึงขั้นวิกฤตเหมือนช่วงหลายปีที่ผ่านมา