ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรตรวจเยี่ยมการทำงานศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ย้ำเป้าหมายแก้ภัยแล้งเติมน้ำเข้าเขื่อนและบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่า เผยปีนี้จำนวนเที่ยวบินขึ้นปฏิบัติการต่ำกว่าเกณฑ์เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย แต่เตรียมพร้อมทุกเมื่อรอปัจจัยเหมาะสม
วันนี้ (17 มี.ค. 59) ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ในช่วงของแผนป้องกันและแก้ไขภัยแล้งระยะที่ 2 และแผนการบรรเทาหมอกควันและไฟป่า ที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 59 โดยมีนางสาวหนึ่งหทัย ตันติพลับทอง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ พร้อมเจ้าหน้าที่ รายงานข้อมูลและผลการปฏิบัติงาน
อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกล่าวว่า การมาในครั้งนี้เพื่อตรวจติดตามและให้กำลังใจการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ทั้งนี้ เป้าหมายหลักในเวลานี้ก็คือการบรรเทาปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากภาพรวมน้ำต้นทุนที่มีเหลืออยู่อย่างจำกัด โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีพื้นที่ภาคเหนือเป็นต้นน้ำ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในช่วงนี้มีปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติการเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยและไม่เหมาะสม แต่ได้มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์และข้อมูลสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง หากเอื้ออำนวยก็จะปฏิบัติการทันที
ส่วนการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ภาคเหนือในช่วง 2 สัปดาห์นี้นั้น จะเน้นการสร้างความชุ่มชื้นให้พื้นที่เพื่อป้องกันบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่าไปก่อน โดยที่จากข้อมูลสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในช่วงหลังนั้นประมาณวันที่ 26-28 มี.ค. 59 อาจจะมีฝนตก ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี นอกจากนี้คาดหวังว่าอากาศที่ร้อนขึ้นจะส่งผลให้ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่านเข้ามาพร้อมนำความชุ่มชื้นเข้ามาและทำให้สภาพอากาศเอื้อต่อการทำฝนหลวงด้วย
สำหรับจำนวนเที่ยวบินปฏิบัติการฝนหลวงของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือในช่วงที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2559 นั้น นายเลอศักดิ์เปิดเผยว่า ในช่วงของแผนการป้องกันและแก้ไขภัยแล้งระยะที่ 1 ระหว่าง 1 ต.ค. 58-29 ก.พ. 59 ทำการบินปฏิบัติการไปรวมแล้วทั้งสิ้น 294 เที่ยวบิน แต่ทั้งนี้ยังถือว่าจำนวนเที่ยวบินต่ำกว่าเกณฑ์ที่วางไว้เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย แต่ได้ผลดีในระดับหนึ่งในการช่วยเติมน้ำลงสู่เขื่อนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง
ขณะที่ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 59 เป็นต้นมาทำการบินปฏิบัติการฝนหลวงไปแล้วรวม 10 เที่ยวบิน แบ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ 4 เที่ยวบิน ซึ่งเป็นการดัดแปรสภาพอากาศช่วยบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่า และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก 6 เที่ยวบิน
นอกจากนี้ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกล่าวถึงกรณีปัญหาหมอกควันไฟป่าและค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ว่า ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือได้รับการประสานร้องขอให้ขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนหลวงเพื่อช่วยบรรเทาปัญหา ซึ่งเวลานี้กำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์อยู่อย่างใกล้ชิดเพื่อปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือเมื่อสภาพอากาศเหมาะสม