xs
xsm
sm
md
lg

สั่งชะลอ “วอร์เตอร์ฟรอนด์” รอบ 2 หลังไม่ผ่านความเห็นชอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวศรีราชา- เมืองพัทยา สั่งชะลอก่อสร้างรอบ 2 “วอร์เตอร์ฟรอนด์” หลังไม่ผ่านความเห็นชอบที่จอดรถ และพื้นที่ใช้สอย

จากกรณีปัญหาโครงการคอนโด วอเตอร์ฟรอนด์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนท์ ที่มีการร้องเรียนต่อเนื่องไปยังหลายหน่วยงานว่า โครงการดังกล่าวมีปัญหาทั้งในเรื่องของการก่อสร้างต่อเติมอาคารผิดแบบ เรื่องของการบุกรุกที่สาธารณะ ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งแวดล้อม และอื่นๆ ซึ่งจนถึงปัจจุบัน โครงการดังกล่าวก็ยังถูกระงับการก่อสร้า งจนส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อการลงทุน และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนว่าจะจัดการอย่างไร กระทั่งทาง สผ.ได้ลงความเห็นให้เมืองพัทยาในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาความเห็นชอบโครงการในฐานะที่กำกับดูแลกฎหมายด้านการควบคุมอาคารโดยตรง ด้วยระบุว่า การเปลี่ยนแปลงการก่อสร้างโครงการดังกล่าวไม่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม และเข้าข่ายการกระทำผิดตามกฎหมาย

ขณะที่ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้จัดประชุมหารือโดยเชิญเมืองพัทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม ทั้งตัวแทนของโครงการเข้าร่วมเจรจา หลังทางโครงการทำหนังสือขอความเป็นธรรมไปยังนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีแนวทางที่ให้เมืองพัทยาทำการเร่งรัดการตรวจสอบแบบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งจะเน้นไปในเรื่องรายละเอียดของอาคาร และส่วนประกอบสำคัญที่ได้ขออนุญาตไว้ว่าครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ ก่อนมอบหมายให้ทางโครงการแก้ไข และส่งผลปฏิบัติกลับมาตรวจสอบ ซึ่งหากพิจารณาแล้วปรากฏว่า แก้ไขถูกต้องตามข้อกฎหมายก็ให้เมืองพัทยาอนุญาตให้ก่อสร้างได้ต่อไป

ซึ่งต่อมา เมืองพัทยาได้ทำการตรวจสอบแบบอย่างละเอียด และเร่งด่วน ก่อนลงนามออกหนังสือทักท้วงไปยังโครงการเกี่ยวกับปัญหาการก่อสร้างที่ไม่ตรงกับแบบที่ได้รับอนุญาตในหลายส่วน โดยฉพาะกรณีของงานทางด้านสถาปัตยกรรม และวิศวกรรมที่พบว่า ยังคงมีปัญหาอยู่ 2 ข้อ ได้แก่ ปัญหาเรื่องของพื้นที่จอดรถในโครงการ ซึ่งแต่เดิมตามแบบแปลนที่ได้ขออนุญาตตามมาตรฐาน EIA จาก สผ.นั้น จะสามารถจอดรถได้ จำนวน 60 คัน แต่พบว่ามีการก่อสร้างต่อเติมเสาตอม่อเพิ่มขึ้น จึงทำให้สามารถจอดรถได้เพียง 30 คันเท่านั้น ซึ่งถือว่าผิดจากข้อกำหนด

โดยเรื่องนี้ทางโครงการได้แจ้งกลับมาว่า จะทำการปรับปรุงระบบใหม่โดยจะเปิดพื้นที่จอดรถด้วยการจัดทำระบบไฮดรอลิก หรือระบบไฟฟ้าขนาด 2 ชั้น ซึ่งจะสามารถจอดรถได้ 60 คัน ตามข้อกำหนดของกฎหมาย และกรณีของพื้นที่ใช้สอยของโครงการซึ่งเดิมได้ขออนุญาตในพื้นที่โดยรวมไว้ 38,000 ตารางเมตร

แต่จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่รวมของอาคารปัจจุบันมีสัดส่วนเกินจากที่ขออนุญาตไว้รวม 5,090 ตารางเมตร ซึ่งแม้ว่าทางโครงการจะแจ้งว่า พื้นที่ส่วนเกินนั้นจะทำการปิดกั้นไว้เพื่อไม่ให้มีการใช้ประโยชน์ก็ตาม แต่เมืองพัทยาก็คงไม่สามารถอนุญาตให้ได้ กระทั่ง นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้ลงนามคำสั่งเพื่อแจ้งไปยัง บ.บาลีฮาย จำกัด โดยมีการระบุขอที่ให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง 2 กรณีหลัก ได้แก่

1.ให้ชี้แจงรายละเอียดการจอดรถแบบไฮดรอลิก และการบริหารจัดการการจอดรถของโครงการให้ชัดเจน ด้วยการบริหารจัดการรถที่มีขนาดความสูงแตกต่างกัน จะมีการจัดสรรที่จอดรถอย่างไรให้สัมพันธ์ต่อการใช้งานจริง โดยขอให้แสดงมาตรการ และแผนการจัดการ ตลอดจนรายละเอียดของแผนบุคลากรที่จะใช้ในการจัดการ

และ 2.เรื่องของพื้นที่ใช้สอยที่รวมกันมีขนาดมากกว่า 5,000 ตารางเมตร ซึ่งโครงการต้องชี้แจงรายละเอียดของพื้นที่ใช้สอย เนื่องจากอาคารนี้เป็นอาคารชุดพักอาศัยจึงจะมีวิธีการจัดการต่อกรรมสิทธิ์ของพื้นที่ส่วนที่ไม่ใช้สอยเหล่านี้อย่างไร เช่น จะใช้เป็นพื้นที่ส่วนกลางหรือไม่ หรือจะมีการนำไปจดทะเบียนขายให้แก่ผู้ซื้ออาคารชุดหรือไม่อย่างไร ตลอดจนมาตรการหลังจากการโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อไปแล้วว่า ผู้ซื้อจะไม่มีการปรับเปลี่ยนไปใช้เป็นพื้นที่ใช้สอยอาคารเพิ่มอีก ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการพิจารณาอนุญาตต่อไป

ล่าสุด แหล่งข่าวจากเมืองพัทยาออกมาระบุว่า จากข้อทักท้วงที่เมืองพัทยาทำหนังสือส่งไปยัง บ.บาลีฮาย จำกัด เพื่อให้ทำการปรับปรุง และชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาเกี่ยวกับผลกระทบทางด้านวิศวกรรม และสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะกรณีของที่จอดรถระบบไฮดรอลิกที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน และกรณีพื้นที่ใช้สอยที่มีขนาดรวมกันเกินกว่าการขออนุญาตจากทาง สผ. ซึ่งแต่เดิมมีพื้นที่รวม 38,000 ตารางเมตร แต่พบว่า มีส่วนของพื้นที่ระเบียงของห้องพักทั้ง 53 ชั้น ที่ก่อสร้างนอกเหนือจากแบบรวมขนาดพื้นที่กว่า 5,090 ตารางเมตร

โดยกรณีเหล่านี้ที่ผ่านมา ทางโครงการได้ทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดมาตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการนำเรื่องเข้าหารือเพื่อพิจารณาในส่วนของคณะอนุกรรมการตรวจสอบของเมืองพัทยา ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการ 30 วัน และครบกำหนดไปตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ซึ่งผลปรากฏว่า จากการชี้แจงของโครงการต่อกรณีดังกล่าวทั้ง 2 ประเด็นหลักข้างต้นทางคณะอนุกรรมการฯ มีความเห็นว่า ข้อมูลที่ทางโครงการชี้แจงกลับมานั้นยังไม่มีความครบถ้วนทุกประเด็น และขาดความชัดเจนในการพิจารณาความเห็นชอบในการอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้

โดยเฉพาะกรณีของพื้นที่ใช้สอยที่มีขนาดเกินกว่าที่ได้ขออนุญาตไว้ เนื่องจากมองว่าอาจจะเป็นการดำเนินการเพื่อเลี่ยงต่อข้อกฎหมาย แม้ว่าทางโครงการจะระบุว่า พื้นที่ที่มีการก่อสร้างต่อเติมในแต่ละชั้นในระดับความสูง 53 ชั้นนั้น จะทำการปิดกั้นไว้เพื่อไม่ให้มีการใช้ประโยชน์ก็ตาม ขณะที่กรณีของพื้นที่จอดรถที่มีการปรับเปลี่ยนมาใช้เป็นระบบไฮดรอลิก ขนาดความสูง 2 ชั้น ซึ่งจะสามารถรองรับการจอดรถได้จำนวนกว่า 60 คัน ตามที่ระบุไว้ในการขออนุญาต แต่ก็ยังขาดความชัดเจนในด้านของวิศวกรรม และองค์ประกอบหลายด้านเช่นกัน

จากกรณีดังกล่าว เมืองพัทยา จึงปฏิเสธการพิจารณาอนุมัติให้โครงการสามารถดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้ พร้อมออกหนังสือ ค.1 เพื่อให้ทางเจ้าของโครงการไปทำการแก้ไขแบบแปลนเพิ่มเติม พร้อมชี้แจงราย ละเอียดเกี่ยวกับข้อปัญหาที่ได้ทักท้วงไปอีกครั้ง จากนั้นจะมีการเข้าไปหารือในส่วนของคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาความเห็นชอบใน 30 วัน ซึ่งหากการชี้แจงรายละเอียดรอบใหม่นี้มีความสมบูรณ์ครบถ้วน เมืองพัทยาก็เห็นควรที่จะอนุมัติต่อใบอนุญาตก่อสร้างต่อไป

โดยมีรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีของพื้นที่ใช้สอยของโครงการที่มีพื้นที่เกินกว่าที่ได้ยื่นขออนุญาตไว้ต่อทาง สผ.นั้น กรณีดังกล่าว เมืองพัทยาได้ทำหนังสือพร้อมเข้าร่วมประชุมหารือกับ สผ.อย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีประเด็นถึงกรณีดังกล่าวว่าเข้าข่ายเป็นการกระทำที่เลี่ยงต่อข้อกฎหมาย และเป็นแบบแปลนโครงการที่ผิดจากการขออนุญาตไว้แต่เดิมจาก สผ.หรือไม่ ขณะที่กรณีของพื้นที่จอดรถในระบบไฮดรอลิกนั้นก็ถือเป็นแผนที่ดำเนินการนอกเหนือจากการขออนุญาตเช่นกัน ซึ่งจากผลการหารือเบื้องต้น ทาง สผ.ระบุว่า กรณีที่เกิดปัญหาขึ้นใน 2 กรณีหลักนั้นถือเป็นเรื่องของการพิจารณาความเห็นชอบของเมืองพัทยา ที่ถืออำนาจสิทธิขาดในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ดูแลกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องควบคุมอาคาร ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ สผ.ตามที่เคยส่งหนังสือแจ้งมาก่อนหน้านี้ไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม จากปัญหาที่มีการหารือมานั้นหากพบว่า มีการดำเนินการตามที่เกินขอบเขตของโครงการที่เคยขออนุญาตไว้ เมืองพัทยา ก็ควรใช้อำนาจตามกรอบของกฎหมายในการออกคำสั่งให้ทางโครงการทำการแก้ไข ปรับปรุง รวมทั้งชี้แจงรายละเอียดอย่างสมบูรณ์เพื่อประกอบการพิจารณาให้ตรงกับแบบแปลนที่เคยขออนุญาตไว้ให้ถูกต้อง ขณะที่ทาง สผ.จะได้นำเรื่องเข้าหารือในส่วนของคณะกรรมการอีกครั้ง พร้อมจะส่งหนังสือสรุปความเห็น พร้อมข้อมูลประกอบเกี่ยวกับโครงการขนาดใหญ่ที่มีการจัดทำที่จอดรถในระบบไฮดรอลิกเพื่อให้เมืองพัทยาใช้ประกอบในการพิจารณา และตัดสินใจต่อไป

สำหรับกรณีของโครงการวอร์เตอร์ฟรอนด์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนซ์ ปัจจุบันยังคงติดปัญหาในหลายกรณีจนทำให้ยังไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้ หลังจากถูกระงับตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2557 หรือเป็นเวลากว่า 1 ปี 6 เดือน ขณะที่การบริหารภายใต้การนำของนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา จะหมดวาระอย่างเป็นทางการลงในวันที่ 16 มิถุนายน 2559 นี้ หรืออีก 2 เดือนครึ่งจากนี้ จึงทำให้สังคมยังคงไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนว่า สุดท้ายจะมีการพิจารณาความเห็นชอบในมีการก่อสร้างต่อในยุคสมัยการปกครองนี้ทันหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น