xs
xsm
sm
md
lg

ยังไม่ผ่าน...เมืองพัทยาย้ำโครงการ “วอเตอร์ฟร้อนท์” ก่อสร้างต่อไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา  - ครบกำหนดดีเดย์ 13 กุมภาพันธ์ เมืองพัทยาตรวจพบโครงการยักษ์ “วอเตอร์ฟร้อนท์” ยังติดปัญหาพื้นที่ใช้สอยมีขนาดเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตกว่า 5,000 ตร.ม. ล่าสุด เมืองพัทยายืนยันไม่สามารถอนุมัติให้เดินหน้าโครงการได้

กรณีปัญหาโครงการคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนซ์ ที่มีการร้องเรียนต่อเนื่องไปยังหลายหน่วยงานว่า โครงการดังกล่าวมีปัญหาทั้งในเรื่องของการก่อสร้างต่อเติมอาคารผิดแบบ เรื่องของการบุกรุกที่สาธารณะ ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมและอื่นๆ ซึ่งจนถึงปัจจุบันโครงการดังกล่าวก็ยังถูกระงับการก่อสร้าง จนส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อการลงทุน และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนว่าจะจัดการอย่างไร

กระทั่งทาง สผ.ได้ลงความเห็นให้เมืองพัทยาในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาความเห็นชอบโครงการ ในฐานะที่กำกับดูแลกฎหมายด้านการควบคุมอาคารโดยตรง ด้วยระบุว่า การเปลี่ยนแปลงการก่อสร้างโครงการดังกล่าวไม่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม และเข้าข่ายการกระทำผิดตามกฎหมาย

ขณะที่ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้จัดประชุมหารือ โดยเชิญเมืองพัทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตัวแทนของโครงการเข้าร่วมเจรจา หลังทางโครงการทำหนังสือขอความเป็นธรรมไปยังนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีแนวทางที่ให้เมืองพัทยาทำการเร่งรัดการตรวจสอบแบบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งจะเน้นไปในเรื่องรายละเอียดของอาคาร และส่วนประกอบสำคัญที่ได้ขออนุญาตไว้ว่าครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ ก่อนมอบหมายให้โครงการแก้ไข และส่งผลปฏิบัติกลับมาตรวจสอบ ซึ่งหากพิจารณาแล้วปรากฏว่า แก้ไขถูกต้องตามข้อกฎหมายก็ให้เมืองพัทยาอนุญาตให้ก่อสร้างได้ต่อไป

ล่าสุด เมืองพัทยาได้ทำการตรวจสอบแบบอย่างละเอียด และเร่งด่วน ก่อนลงนามออกหนังสือทักท้วงไปยังโครงการเกี่ยวกับปัญหาการก่อสร้างที่ไม่ตรงต่อแบบที่ได้รับอนุญาตในหลายส่วน โดยมีข้อทักท้วงที่อ้างตามหนังสือตอบข้อหารือของกรมโยธาธิการและผังเมือง ว่า

“กรณีการก่อสร้างอาคารไม่ตรงตามแบบแปลนที่ได้รับอนุญาต แม้ว่าจะมีการยื่นขอดัดแปลงแล้วก็ตาม แต่การยื่นขออนุญาตดัดแปลงต้องเป็นกรณีอาคารที่ก่อสร้างเสร็จแล้วต้องการดัดแปลงอาคารเดิม แต่กรณีนี้เป็นอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งมีการก่อสร้างผิดไปจากแบบแปลนที่ได้รับอนุญาต จึงจำเป็นต้องเป็นกรณียื่นขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามแบบแปลนตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2552”

โดยให้แก้ไขคำขออนุญาตเป็นลี่ยนแปลงแบบแปลนอาคาร ซึ่งเป็นปัญหาทางด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม จำนวน 26 ข้อ พร้อมจัดทำหนังสืออย่างเป็นทางการส่งรายละเอียดแนบท้ายคำสั่งอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 27 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 เพื่อให้ทางโครงการจัดการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนผังบริเวณแบบแปลน รายการประกอบแบบแปลน หรือ รายการคำนวณให้ถูกต้อง และเป็นไปตามกฎกระทรวง หรือข้อบัญญัติท้องถิ่นดังกล่าวข้างต้น และให้ไปรับคำขออนุญาตคืนเพื่อจัดการแก้ไขและจัดส่งเอกสารหรือแก้ไขเอกสารให้ถูกต้อง และส่งคืนภายในกำหนด 45 วันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้

แหล่งข่าวระดับสูงเปิดเผยผลของการประชุมของคณะทำงานการตรวจสอบปัญหาโครงการวอร์เตอร์ฟรอนด์ ว่า ผลจากการตรวจสอบงานทางด้านสถาปัตยกรรม และวิศวกรรมของโครงการที่พบปัญหา จำนวน 26 ข้อ ที่เมืองพัทยาสั่งให้ทำการแก้ไขนั้นพบว่ายังคงมีอยู่ 2 ข้อที่ยังคงติดปัญหาอยู่ ได้แก่

1.ปัญหาเรื่องของพื้นที่จอดรถในโครงการ ซึ่งแต่เดิมตามแบบแปลนที่ได้ขออนุญาตตามมาตรฐาน EIA จาก สผ.นั้น จะสามารถจอดรถได้จำนวน 60 คัน แต่พบว่ามีการก่อสร้างต่อเติมเสาตอม่อเพิ่มขึ้นจึงทำให้สามารถจอดรถได้เพียง 30 คันเท่านั้น ซึ่งถือว่าผิดจากข้อกำหนด

เรื่องนี้ทางโครงการได้แจ้งกลับมาว่า จะทำการปรับปรุงระบบใหม่โดยจะเปิดพื้นที่จอดรถด้วยการจัดทำระบบไฮดรอลิก หรือระบบไฟฟ้าขนาด 2 ชั้น มีระยะความสูงจากพื้นถึงเพดาน 3.2 เมตร ซึ่งจะสามารถจอดรถได้ 60 คัน ตามข้อกำหนดของกฎหมาย

จากการหารือข้อปัญหานี้ไปยังกรมโยธิการและผังเมืองพัทยา ก็ได้รับแจ้งว่า สามารถดำเนินการได้ แต่ต้องสามารถใช้พื้นที่จอดรถได้จริงตามที่กำหนด อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบขนาดพื้นที่จุดจอดรถนั้นพบว่าค่อนข้างคับแคบ และจะสามารถรองรับได้เพียงรถมีขนาดค่อนข้างเล็ก จึงทำให้การปรับปรุงเพื่อให้สามารถรองรับรถขนาดกลางได้

ขณะที่ปัญหาสำคัญประการที่ 2 คงจะเป็นกรณีของพื้นที่ใช้สอยของโครงการนั้นตามที่ขออนุญาตเดิมจะมีพื้นที่โดยรวม 38,000 ตารางเมตร แต่จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่รวมของอาคารปัจจุบันมีสัดส่วนเกินจากที่ขออนุญาตไว้รวม 5,090 ตารางเมตร

กรณีนี้พบว่าเป็นส่วนของพื้นที่ที่มีการก่อสร้างต่อเติมในแต่ละชั้นในระดับความสูง 53 ชั้น จึงทำให้เป็นปัญหา แม้ว่าทางโครงการจะแจ้งว่าพื้นที่ส่วนเกินนั้นจะทำการปิดกั้นไว้เพื่อไม่ให้มีการใช้ประโยชน์ก็ตาม แต่เมืองพัทยาก็คงไม่สามารถอนุญาตให้ได้ตามกำหนดเดิมในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ และก็ยังได้ออกหนังสือ ค.1 เพื่อให้ทางโครงการแก้ไข รวมทั้งจะแจ้งอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ หรือวันนี้ เพื่อให้โครงการรับทราบ จากนั้นคงจะเป็นขั้นตอนของทางโครงการที่จะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้แล้วเสร็จเพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้ง

แหล่งข่าวเปิดเผยต่อไปว่า สำหรับกรณีของโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์คอนโดมิเนียมนั้น ทางเมืองพัทยาคงต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในส่วนของการควบคุมอาคาร ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นซึ่งมีอำนาจโดยตรงเพื่อให้เกิดความถูกต้องสูงสุดก่อนอนุญาตให้ทำการก่อสร้างต่อไปได้ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้เกิดความชัดเจนตามกฎหมาย และสังคม โดยหากทางโครงการเกิดผลกระทบ หรือเสียหายก็สามารถร้องเรียนตามกระบวนการยุติธรรมได้
กำลังโหลดความคิดเห็น