ประจวบคีรีขันธ์ - พบวาฬบรูด้ายาวกว่า 12 เมตร ลอยตายกลางทะเลคลองวาฬ เมืองประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยเร่งเก็บตัวอย่างหาสาเหตุการตาย
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (1 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวประมงว่า มีวาฬบรูด้าขนาดใหญ่ลอยตายในทะเลอ่าวคลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ โดยพบว่าวาฬบรูด้าตัวดังกล่าวได้ถูกเจ้าหน้าที่จากส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทะเลประจวบคีรีขันธ์ (สบทช.3) สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 (เพชรบุรี) ได้นำเรือออกไปลากวาฬบรูด้าที่พบลอยตายในทะเลบริเวณด้านหลังเกาะพิงเกาะพัง โดยห่างจากชายฝั่งราว 3 ไมล์ทะเล กลับมาไว้บนชายหาดใกล้กับสะพานปลาเก่าคลองวาฬ โดยมีสัตวแพทย์หญิงวัชรา ศากรวิมล สัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลางจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายอติชาติ ทองคำ นักวิชาการประมงชำนาญการ นายวรรณ ชาตรี ผอ.ส่วน สบทช.3 นางจิรัฎฐ์ ปรานต์ประสิทธิ์ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมฯ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประจวบคีรีขันธ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบซากบรูด้าที่พบ โดยเบื้องต้น ไม่พบบาดแผลใดที่จะเป็นสาเหตุของการตายของวาฬบรูด้าได้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ลงมือเก็บตัวอย่างเนื้อเยื้อ และชิ้นเนื้อตามส่วนสำคัญของซากวาฬ ทั้งในกระเพาะอาหาร ตับ และหัวใจ เพื่อนำกลับไปตรวจสอบยังห้องปฏิบัติการ ก่อนจะวิเคราะห์หาสาเหตุการตายที่แท้จริง และส่งกลับมายังสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประจวบคีรีขันธ์ ภายใน 30 วัน ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้เคียงต่างลงมามุงดูเหตุการณ์ และถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก
สำหรับซากวาฬบรูด้าที่พบนี้เจ้าหน้าที่คาดว่า มีอายุราว 6 ปีขึ้นไป ความยาว 12.20 เมตร ความกว้างประมาณ 3-4 เมตร น้ำหนักตัวมากกว่า 10 ตัน เบื้องต้น ไม่ยังไม่สามารถระบุเพศได้เพราะสภาพซากเปื่อยยุ่ย ส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ คาดว่าตายมาแล้วราว 7-14 วัน โดยหลังจากเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อเรียบร้อยแล้วได้ทำการขุดหลุมฝังไว้ที่บริเวณชายหาดดังกล่าว
สำหรับวาฬบรูด้า ถือสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 ซึ่งพบมากในทะเล จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.เพชรบุรี จ.สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร โดยอาหารของวาฬบรูด้า เป็นลูกปลาขนาดเล็กจำพวกปลาทู สำหรับพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เคยพบวาฬบรูด้าตายล่าสุด เมื่อปี พ.ศ.2554 หน้าทะเลทับสะแก หมู่ที่ 3 ต.ทับสะแก ครั้งนั้นเป็นวาฬบรูด้า ยาวกว่า 10 เมตร หนักกว่า 10 ตัน จนกระทั่งล่าสุด พบซากวาฬบรูด้าตายอีกครั้งในวันนี้
