พังงา - ถูกคลื่นซัดเกยตื้นแล้วซากวาฬบรูด้า หลังตายลอยอยู่กลางทะเลตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา คาดมีอายุประมาณ 12 ปี น้ำหนักไม่น้อยกว่า 10 ตัน
วันนี้ (14 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบซากวาฬขนาดใหญ่ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่บริเวณห่างจากฝั่งที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ประมาณ 1.5 กม. ไปทางด้านทิศเหนือ โดยซากที่พบมีลักษณะเน่าเปื่อยมาก ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ
ซึ่งซากวาฬดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้มีความพยายามค้นหามาหลายวันแล้ว หลังเรือท่องเที่ยวพบตายลอยน้ำอยู่ในฝั่งทะเลอันดามัน ด้านทิศตะวันตกของ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จ.ภูเก็ต ซึ่งร่วมมือกับศูนย์ประสานงานกู้ภัยอุทยานแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ที่ติดตามค้นหาซากวาฬเกยตื้นมาต่อเนื่อง จนกระทั่งประสบความสำเร็จในวันนี้
นายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ซากวาฬที่พบเป็นวาฬบรูด้า อายุประมาณ 12 ปี ยาวประมาณ 15 เมตร มีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 10 ตัน คาดว่าตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 วัน ทั้งนี้ พบว่าส่วนหางได้ขาดหายไปแล้ว ซึ่งจะส่งมอบซากวาฬตัวนี้ให้แก่ทีมสัตวแพทย์ของศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จังหวัดภูเก็ต ดำเนินการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งเพื่อหาสาเหตุการตาย
ก่อนที่จะทำการขุดหลุมฝังกลบไว้ในจุดที่เหมาะสมเพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจาย และวางแผนเก็บโครงกระดูกไว้ศึกษาต่อไป เนื่องจากเป็นซากวาฬที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่มีอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้ คาดว่าต้องใช้เวลานานกว่า 3 ปี เนื้อเยื้อต่างๆ จึงจะสลายได้หมด