เชียงใหม่ - กลายเป็นประเด็นดรามากลางหน้าร้อนแล้ว เพจดังเชียงใหม่โพสต์ภาพเพิงขายอาหาร-เครื่องดื่มโผล่เต็มลำน้ำปิงเขต “แม่แตง” ทั้งที่แม่น้ำปิงกำลังอยู่ในภาวะแห้งเหือด จนคนวิจารณ์ตรึม ขณะที่คนท้องถิ่นยันเป็นแคร่กลางน้ำ ขออนุญาตให้คนท้องถิ่นค้าขายแค่ 35 วัน
วันนี้ (24 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมออนไลน์เชียงใหม่กลางภัยแล้ง-น้ำปิงแห้งเหือดทีเดียว หลังเพจ “Raks Mae Ping - รักษ์แม่ปิง” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเพจจิตอาสาชื่อดังของเชียงใหม่ โพสต์ภาพการนำกระสอบทรายกั้นกลางน้ำปิงเป็นฝายน้ำล้น ก่อนสร้างเพิงขายอาหาร-เครื่องดื่มเต็มลำน้ำ พร้อมระบุว่าเป็น “คอนโดฯ กลางแม่ปิง!!!!!! เป็นยังงี้ได้ยังไง?????”
นอกจากนี้ในเพจดังกล่าวยังระบุข้อความด้วยว่า ปีที่แล้ว “รักษ์แม่ปิง” ได้โพสต์ร้านกาแฟ “ดัดจริต” แช่ขาดื่มกาแฟกลางลำน้ำแพร่แถวบ้านปง และกรมเจ้าท่าออกมายืนยันว่าทำอย่างที่ว่ามันผิดกฎหมายการใช้ประโยชน์ของลำน้ำสาธารณะ มาปีนี้-วันนี้ (23 มีนาคม 2559) ยามที่แม่ปิงเหือดแห้งก็ยังมีพวกเห็นแก่ตัวตั้งหน้าตั้งตาข่มขืน ชำเราแม่ปิง กะจะให้ตายคามือ
เหตุเกิดที่... กม.52 ถนนเชียงใหม่-ฝาง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เลยโรยัลปิงรีสอร์ทไป 1 กม. ตรงข้ามวัดทับเดื่อ ก่อนถึงคุ้มหลวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เบื้องต้นกรมเจ้าท่าได้รับแจ้งแล้วและจะดำเนินการตามกฎหมาย
เพจ “Raks Mae Ping” ยังเรียกร้องด้วยว่า “พวกเราต้องช่วยกดดันให้รื้อถอนโดยเร็วที่สุด ไม่ใช่ไปรื้อหลังสงกรานต์ ขอให้เป็นบทเรียน อย่าได้ทำซ้ำอีก! / แชร์กันให้เยอะๆ ครับ”
หลังการโพสต์เรื่องราวดังกล่าว ปรากฏว่ามีแฟนเพจร่วมแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางและหลากหลาย โดยส่วนหนึ่งมองว่า “ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง..ทำไมไม่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสสร้างรายได้เข้าชุมชน แต่ก็ต้องขอความร่วมมือกับกลุ่มพ่อค้าแม่ขายให้ดูแลเรื่องขยะ ผมว่าอากาศร้อนแบบนี้ใครๆ ก็อยากจะพักผ่อนเล่นน้ำแช่น้ำ (ก็ว่ากันไป) แต่ถ้าหากพ่อค้าแม่ขายเขาไม่ให้ความร่วมมือในเรื่องความสะอาดก็สามารถสั่งรื้อถอนได้ทันที”
ขณะที่บางคนระบุว่า “จริงๆ เราก็ไม่ได้เห็นแก่ตัวนะคะ หากมองอีกมุม และหลายๆ มุม มองความจริงที่ไม่ได้มีแค่ที่นี่ที่เดียวคงต้องเริ่มต้นกันตั้งแต่ต้นแม่น้ำกันเลยทีเดียว อีกอย่างทางหมู่บ้านก็ไม่ได้ทำธุรกิจถาวรสามารถรื้อถอนได้ทันทีที่กรมฯ สั่ง และทางหมู่บ้านก็ทำการขออนุญาตสร้างชั่วคราวให้ประกอบการค้าขายได้ไม่เกิน 35 วันค่ะ เราไม่ทิ้งขยะลงแม่น้ำ มีระบบการจัดการขยะ เพราะทางหมู่บ้านเองก็ใช้ในการอุปโภคเหมือนกันค่ะตั้งแต่สมัยปู่ย่าตาทวด ไม่มีใครไม่รักบ้านเกิดของตัวเองค่ะ แต่บ้านนอกเราจะมีโอกาสค้าขายแบบนี้แค่ช่วงเดือนกว่าๆ เท่านั้นเอง เจ้าหน้าที่ก็เข้ามาชี้แจงรายละเอียดแล้วค่ะ คนบ้านนอกก็มีการศึกษา มีจิตสำนึกดีเหมือนกันค่ะ เราคนจนจริงบ้านนอกจริง แต่เราไม่เห็นแก่ตัวขนาดนั้นค่ะ พูดจาสุภาพก็เข้าใจ คำว่าคอนโดฯ คงไม่ได้หมายความถึง แคร่กลางน้ำ 1.50x1.50 ม. หลังคามุงหญ้า มุงใบจาก ใบตอง แค่ลมพัดแรงก็ปลิวได้นะคะ อยากชี้แจงว่าทางหมู่บ้านเราไม่มีเจตนาเลวร้ายขนาดนั้น อยากให้เข้าใจคนจนแบบเราบ้างค่ะ ขอบคุณค่ะ”
อย่างไรก็ตาม มีผู้แสดงความเห็นคัดค้านการตั้งร้านกลางน้ำปิงกันอย่างมากมาย โดยระบุว่า ประเด็นคือการจัดการ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างถูกต้องและยั่งยืน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสถานภาพทางเศรษฐกิจ ชนชั้น ชาติพันธุ์ ถ้าทุกคนค้าขายในสถานที่ที่ไม่สมควรก็จะเป็นอย่างที่เห็นในประเทศไทย มีร้านค้า หาบเร่ แผงลอยเต็มไปหมดในสถานที่ที่ไม่สมควรให้มี
“เจ้าหน้าที่รัฐก็ให้ความร่วมมือ สนับสนุนให้ทำผิดกฎหมายซึ่งจะด้วยปัจจัยอะไรก็แล้วแต่ ถ้ารักบ้านเกิด รักส่วนรวมจริง พวกคุณจะไม่ทำสิ่งที่ทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างนี้ ลองไปดูสถานที่ตอนนี้เลยนะครับ ต้องมีขยะ คราบสกปรกตกค้างแน่นอน”
ขณะที่บางรายระบุว่า “อยากถามคำถามง่ายแต่ตอบได้โคตรยากว่า แล้วองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่มีปัญญาควบคุมดูแล หรือว่าส่วนใหญ่จะพิการตาบอดหูหนวกจึงมองไม่เห็น ไม่ได้ยินภาพและเรื่องที่ประจานความรับผิดชอบของตนอย่างนี้ หรือว่าไปมีส่วนร่วมลงทุนและให้การสนับสนุนความมักง่ายเห็นแก่ได้พวกนี้ มีคนเขาอยากได้คำตอบนะ”
นอกจากนี้ยังมีคนมองการตั้งเพิงขายอาหาร เครื่องดื่ม กลางแม่น้ำปิง แม่น้ำสาธารณะ ว่า “เป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ไม่รักสิ่งแวดล้อม ขาดจิตสำนึก ไอ้พวกไร้สมอง บ้านเมืองมีกฎหมายควรดำเนินการขั้นเด็ดขาดไปเลย จับไปเข้าคุกเลยจะได้เลิกทำกันเสียที เรื่องทำลายสิ่งแวดล้อมนี่ชอบนักเชียว
ขณะที่แฟนเพจอีกหลายรายก็ชี้เป้าเพิ่มเติมด้วยว่า มีการรุกตั้งเพิงขายอาหาร เครื่องดื่มกลางแม่น้ำปิง และแม่น้ำสายอื่นๆ ของเชียงใหม่กันอย่างมากมาย เช่น “มีแบบนี้เยอะแยะ...แถวปิงโค้ง....ก็มีมานาน....ริมน้ำแจ่ม ฮอดก็เห็นมาเป็นสิบปี, มีนักค่ะ แทบทุกที่ที่มีสายน้ำ แก่งปันเต้าเจียงดาวก็มีค่ะ หาดน้ำน่านที่ จ.น่านก็มี ทำมาเป็น 10 ปีละ คงจะแก้ยากค่ะ”
อนึ่ง เมื่อปี 58 ที่ผ่านมาเรื่องราวร้านอาหาร และร้านกาแฟกลางน้ำ เคยเกิดขึ้นและถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางมาแล้ว คือ ร้านอาหาร-ร้านกาแฟล่วงล้ำลำห้วยแม่ท่าช้าง บนถนสายหางดง-สะเมิง ใน ต.น้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ที่มีการตั้งโต๊ะและเก้าอี้กลางลำน้ำ เพื่อให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวได้นั่งรับประทานอาหาร-เครื่องดื่ม พร้อมกับเอาเท้าแช่น้ำคลายร้อน
ต่อมาสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเชียงใหม่ ได้เรียกผู้ประกอบการร้านอาหารมาประชุมเพื่อขอความร่วมมือและจัดระเบียบ โดยให้ร้านอาหารเหล่านี้ต้องยกโต๊ะ และเก้าอี้ขึ้นจากลำน้ำเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ (ในขณะนั้น) นายอำเภอหางดง และใกล้เคียง เข้าดำเนินการจัดการตามกฎหมาย