ปตท.เขาบ่อยาแจงโครงการขยายท่าเรือ-สร้างถังเก็บผลิตภัณฑ์-วางท่อน้ำมันใต้ทะเลเสร็จสิ้นปีนี้

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ปตท.คลังก๊าซเขาบ่อยา แจงโครงการขยายท่าเทียบเรือ ก่อสร้างถังเก็บผลิตภัณฑ์ วางท่อส่งน้ำมันใต้ทะเล แล้วเสร็จสิ้นปี 59 นี้ โดยตลอดระยะเวลาการก่อสร้างพร้อมเชิญชุมชนรอบพื้นที่โครงการ และเทศบาลนครแหลมฉบัง ติดตามการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา หรือผลกระทบในอนาคต

ที่ห้องประชุมคลังน้ำมันศรีราชา บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา นายณัชพล จีนขจร ผู้จัดการส่วนคลังน้ำมันศรีราชา และนายปรเมษฐ์ สุวรรณประดิษฐ หัวหน้าหน่วยวิศวกรรมโครงการฯ พร้อมคณะ ได้เชิญตัวแทนชุมชนรอบพื้นที่โครงการ เจ้าหน้าที่เทศบาลนครแหลมฉบัง เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการขยายท่าเทียบเรือ ก่อสร้างถังเก็บผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมของคลังก๊าซเขาบ่อยา โครงการวางท่อน้ำมันใต้ทะเล และวางท่อพาราไซลีน

นายปรเมษฐ์ สุวรรณประดิษฐ หัวหน้าหน่วยวิศวกรรมโครงการฯ กล่าวถึงโครงการต่างๆ เช่น โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือ 1A สามารถรองรับเรือบรรทุกขนาด 500-120,000 DWT และท่าเทียบเรือ 1B สามารถรองรับเรือบรรทุกขนาด 500-5,000 DWT โดยทั้ง 2 สะพานมีความยาวรวม 435.47 เมตร ซึ่งการดำเนินการก่อสร้างขณะนี้แล้วเสร็จกว่า 90% แล้ว โดยอยู่ระหว่างเก็บรายละเอียดเท่านั้น

โครงการก่อสร้างถังเก็บผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมของคลังก๊าซเขาบ่อยา ที่มีความจุประมาณ 47,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่บรรจุจริงได้ 35,744 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีความสูง 42.8 เมตร มีทั้งหมด 13 ชั้น ภายในถังจะเก็บผลิตภัณฑ์ก๊าซแอลพีจีที่อุณหภูมิประมาณลบ 45 องศาเซลเซียส ซึ่งโครงการแล้วเสร็จกว่า 90% แล้วเช่นกัน

นายปรเมษฐ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้นโครงการวางท่อใต้ทะเล 24 นิ้ว เป็นท่อเหล็กติดตั้งอยู่ใต้ทะเลเชื่อมต่อท่อใต้ดินบริเวณชายฝั่งทะเลหน้าโรงกลั่นเอสโซ่ ศรีราชา กับระบบท่อของท่าเทียบเรือกลางทะเล ห่างจากชายฝั่งประมาณ 1.3 กิโลเมตร เพื่อใช้ในการขนส่งน้ำมันระหว่างถังน้ำมันกับเรือ โดยท่อใต้ทะเลจะฝังกลบลึกจากพื้นทะเล 1-1.5 เมตร ซึ่งโครงการจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้

สำหรับโครงการวางท่อพาราไซลีน ขนาด 12 นิ้ว โดยวางจากท่าเทียบเรือกลางทะเล มายังคลังน้ำมันศรีราชา ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร โดยท่อจะอยู่บนบก 2 กิโลเมตร และในทะเล 1.5 กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมพื้นที่ก่อสร้าง และพร้อมก่อสร้าง เช่น การหล่อคอนกรีตท่อใต้ทะเล การเตรียมเชื่อมท่อบริเวณริมชายฝั่ง และหลังจากนั้น จะมีการทดสอบท่อโดยใช้แรงดันน้ำ โดยคาดว่าการดำเนินการวางท่อพาราไซลีนจะแล้วเสร็จประมาณเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าโครงการขยายท่าเทียบเรือ ก่อสร้างถังเก็บผลิตภัณฑ์ วางท่อน้ำมันใต้ทะเลนั้น แล้วเสร็จสิ้นปี 59 นี้อย่างแน่นอน

นายปรเมษฐ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการก่อสร้างโครงการต่างๆ นั้นทางโครงการจะมีการปฏิบัติตามมาตรการในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อย่างเคร่งครัด และยังติดตามตรวจสอบเป็นประจำทุกเดือน พร้อมเชิญตัวแทนชุมชนรอบพื้นที่โครงการ กลุ่มประมง และเทศบาลนครแหลมฉบัง เข้าร่วมติดตามตรวจสอบป้องกันแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมทุก 6 เดือน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา หรือผลกระทบใดๆ และหากมีปัญหาก็จะดำเนินการแก้ไขตามที่ร้องเรียนทันที ซึ่งที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือด้วยดีมาโดยตลอดจนปัญหาต่างๆ ลุล่วงด้วยดี