xs
xsm
sm
md
lg

ไฟป่าแก่งกระจานยังไม่มอด บินโปรยน้ำดับไฟป่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ -ไฟป่าที่แก่งกระจานยังดับไม่ได้ เหตุมีเชื้อเพลิงสะสมนานกว่า 10 ปี และไฟป่าได้ลุกลามเข้าไปถึงป่าดิบ ล่าสุด ต้องมีการสับเปลี่ยนกำลัง และใช้ ฮ.บินโปรยน้ำช่วยดับไฟเกือบ 20 เที่ยวบิน

สถานการณ์ไฟป่าเทือกเขาตะนาวศรี พื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ด้านบ้านละอูน้อย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ไหม้มานาน 6 วันแล้ว จนถึงเวลานี้ยังตรวจพบกลุ่มควันไฟ เนื่องจากมีเชื้อเพลิงสะสมนานกว่า 10 ปี รวมทั้งไฟได้ลุกลามเข้าไปในป่าดิบ

สำหรับการดับเพลิงนั้นได้มีการส่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สถานีควบคุมไฟป่าหนองพลับ-ห้วยสัตว์ใหญ่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง สถานีควบคุมไฟป่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินเท้าเข้าดับไฟป่าเป็นระยะเวลา 5 วัน รวมทั้งมีการใช้อากาศยานโปรยน้ำดับเพลิงไปแล้วกว่า 10 เที่ยวบิน

ล่าสุด วันนี้ (21 มี.ค.) นายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมไฟป่า สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์กรมอุทยานฯ เพื่อสำรวจ และติดตามสถานการณ์ไฟป่าทั้งพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

ทั้งนี้ พบว่ายังมีกลุ่มควันไฟบนสันเขาหลายจุด บางจุดเป็นช่วงภูเขาสูงชันที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึงกว่า 1,000 ฟุต ซึ่งการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำแนวกันไฟ และดับไฟจะทำได้ค่อนข้างลำบาก นอกจากนี้ ในช่วงเช้าวันนี้ได้มีการจัดส่งเสบียงทางอากาศให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ทำแนวกันไฟซึ่งพักค้างแรมในป่า

ขณะนี้พบปัญหาด้านการติดต่อประสานงาน และรายงานสถานการณ์ เนื่องจากเข้าวันที่ 3 แบตเตอรี่วิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่เริ่มหมด และต้องระวังไม่ให้น้ำดื่มที่ส่งทางอากาศเสียหาย

สำหรับในช่วงเช้าวันนี้จะมีการใช้เฮลิคอปเตอร์โปรยน้ำดับไฟป่า เนื่องจากเป็นช่วงที่ยังมีความชื้นในอากาศ ซึ่งจะทำให้การดับไฟป่ามีประสิทธิภาพมากกว่า โดยเฮลิคอปเตอร์จะตักน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยป่าเลา ไปดับไฟในพื้นที่เป้าหมายในพื้นที่ด้านป่าละอูน้อย เพื่อสนับสนุนการทำแนวกันไฟของเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน ซึ่งได้มีการวางแผนโปรยน้ำดับไฟในจุดที่กลุ่มควันหนาแน่น และเป็นพื้นที่สูงขันเข้าถึงลำบาก ซึ่งในบางจุดอาจจะต้องโปรยน้ำซ้ำ 2 รอบ เพื่อให้ไฟดับสนิท ซึ่งในวันนี้จะทำการบินโปรยน้ำดับไฟ จำนวน 16 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำประมาณกว่า 5 พันลิตร

ทั้งนี้ มีการรายงานสถานการณ์ไฟป่าจากเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินว่า นอกเหนือจากอุปสรรคด้านพื้นที่สูงชัน และสภาพลมแรงแล้ว ยังพบปัญหาสำคัญคือ พบเชื้อเพลิงสะสมจำนวนมาก เนื่องจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ไม่เคยเกิดไฟป่ามานานกว่า 10 ปี นอกจากนี้ ยังพบว่าไฟป่าได้ลุกลามเข้าไปถึงป่าดิบ ซึ่งจะง่ายต่อการทำแนวกันไฟ เนื่องจากเป็นป่าที่มีต้นไม้สูง

ต่อมา เมื่อเวลา 10.00 น. นายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมไฟป่า สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานฯ นายราชันย์ บุญอยู่ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นายธีรชาติ เปียประดิษฐ์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าหนองพลับ-ห้วยสัตว์ใหญ่ นายภาคภูมิ อร่ามศิริรุจิเวทย์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้ร่วมกันมอบนโยบาย และชี้แจงแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดใหม่ที่จะเดินทางเข้าไปสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเดิม

ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด แก่งกระจาน กุยบุรี หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก จำนวนเกือบ 50 คน ทั้งนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าบางส่วนที่ไม่ได้เดินทางกลับลงมาและยืนยันยังปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่าต่อไป โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ชุดใหม่นี้ได้มีการวางแผนการเดินเท้าเข้าพื้นที่ดับไฟ ซึ่งขณะนี้จะต้องเดินเท้าตามแนวสันเขา และแนวลำห้วยขึ้นไป มุ่งเน้นการทำแนวกันไฟควบคุมจำกัดวงไฟไม่ให้ลุกลาม ซึ่งคาดว่าจะใช้การเดินเท้าอย่างน้อย 1 วัน จึงจะเดินทางถึงพื้นที่ดับไฟ และจะอยู่ค้างคืนดับไฟป่าอย่างน้อย 2 วันเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม มีพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ว่า ในวันที่ 24 มีนาคมที่จะถึงนี้ จะมีพายุฤดูร้อน และมีฝนฟ้าคะนองในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ซึ่งทุกฝ่ายต่างก็คาดหวังจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และจะทำให้สถานการณ์ไฟป่าคลี่คลายลงอย่างรวดเร็ว

ขณะที่เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำรวจพื้นที่เกิดไฟป่าบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี บ้านป่าละอูน้อย ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งดับไฟป่าโดยเร็วที่สุด โดยได้สั่งการให้นำกำลังสนับสนุนจากหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติในพื้นที่ข้างเคียงมาช่วยเหลือดับไฟป่าด้วย เพราะหากปล่อยไว้นานเกรงว่าจะกระทบต่อการเตรียมการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ไฟป่าเกิดเป็นจุดๆ จึงน่าจะเกิดจากฝีมือของมนุษย์ แต่จะด้วยเหตุผลใดนั้นยังต้องติดตามตัวหาผู้กระทำผิดมาสอบสวนขยายผล แต่สิ่งสำคัญในตอนนี้คือ ต้องเร่งดับไฟป่าเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด

นอกจากชุดเสือไฟ และเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ ในหน่วยงานข้างเคียงที่ตนให้สั่งการให้มาเสริมกำลังในการช่วยเหลือดับไฟป่านี้ จะต้องใช้นำดับไฟด้วย โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพย์ฯ มาช่วยเหลือสนับสนุนการทำงานในครั้งนี้ แต่หากประเมินสถานการณ์ว่าเอาไม่อยู่ คงจะต้องขอความช่วยเหลือไปยังกองทัพอากาศให้มาช่วยเหลือในลำดับต่อไป

สำหรับภาพรวมสถานการณ์ไฟป่ามีความน่าเป็นห่วง เพราะเริ่มรุนแรงอย่างมากในช่วง 2 วันที่ผ่านมา จากสภาพพื้นที่ป่าดิบแล้ง ซึ่งชุดเสือไฟพยายามทำแนวกันไฟตีกรอบพื้นที่เกิดไฟป่าให้ได้มากที่สุด แต่ล่าสุดพบว่า ไฟป่าได้เริ่มลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่าดิบชื้นซึ่งเป็นป่าชั้นใน เป็นพื้นที่ที่เกิดไฟป่าได้ยากแต่ก็เกิดแล้ว ซึ่งตนจะขึ้นบินประเมินสถานการณ์อีกครั้ง โดยจะพยายามควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด

สำหรับพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก มีความสำคัญระดับโลก ไฟป่าทำให้สัตว์ป่า และความหลากหลายทางชีวภาพถูกทำลายอย่างหนัก ซึ่งไฟป่าที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นฝีมือของมนุษย์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าผู้ที่จุดไฟจะเป็นใคร กลุ่มบุคคลใด ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ควรที่จะเจรจาบนโต๊ะมากกว่าการก่อเหตุเพื่อกดดันภาครัฐดังกล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น