“นักบินศูนย์ฝนหลวงหัวหิน” บินสำรวจพื้นที่พบความชื้นต่ำยังไม่สามารถทำฝนหลวงได้

ประจวบคีรีขันธ์ - นักบินศูนย์ฝนหลวงหัวหิน ขึ้นบินตรวจสภาพอากาศประจวบคีรีขันธ์ พบความชื้นต่ำ ประกอบกับยังมีสภาพอากาศร้อนเนื่องจากยังอยู่ในช่วงพีคของปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้ขณะนี้ยังไม่สามารถขึ้นปฏิบัติการทำฝนหลวงได้ ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ ระบุขณะนี้สถานการณ์ภัยแล้งในหัวหิน ปราณบุรี และสามร้อยยอด น่าเป็นห่วง หวังภายใน 2-3 เดือนนี้จะสามารถทำฝนหลวงเพิ่มปริมาณน้ำใด้อย่างน้อย 20-30 ล้านลูกบาศก์เมตร

วันนี้ (2 มี.ค.) ที่ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายฉันติ เดชโยธิน นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการศูนย์ฝนหลวงหัวหิน นายแทนไทร์ พลหาญ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ นักบินและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สรุปสถานการณ์

โดยในวันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงหัวหินได้ส่งนักบินขึ้นบินสำรวจตรวจสภาพอากาศ และสภาพพื้นที่ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อประเมินสถานการณ์ในการปฏิบัติการทำฝนหลวง จากการสำรวจพื้นที่อำเภอแก่งกระจาน แหล่งต้นน้ำของเขื่อนปราณบุรี และเขื่อนแก่งกระจาน อำเภอปราณบุรี สามร้อยยอด และกุยบุรี พบว่า มีสภาพค่อนข้างแห้งแล้งไม่มีกลุ่มเมฆจับตัว มีความเร็วลมค่อนข้างสูง ความชื้นต่ำกว่าเกณฑ์ สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยที่จะเปิดปฏิบัติการทำฝนหลวง

รวมทั้งขณะนี้อยู่ในช่วงที่ปรากฏการณ์เอลนีโญส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศรุนแรงที่สุด (พีก) ซึ่งเป็นช่วงที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง ดังนั้น ในช่วงนี้จึงยังไม่สามารถขึ้นบินทำฝนหลวงได้ แต่อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ฝนหลวงหัวหินจะทำการการติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด 24 ชั่วโมง หากพบบริเวณใดมีสภาพอากาศเหมาะสมจะทำการขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนหลวงทันที โดยในระยะนี้จะเน้นปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ต้นน้ำ และพื้นที่ทำการเกษตรของประชาชน เพื่อสร้างความชุ่มชื่นให้แก่ผืนดิน และให้มีปริมาณไหลเข้าแหล่งกักเก็บน้ำ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น

นายทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กว่าวว่า ขณะนี้พื้นที่ในโซนเหนือของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่ อำเภอหัวหิน ปราณบุรี สามร้อยยอด กุยบุรี และอำเภอเมือง ประสบต่อภาวะฝนทิ้งช่วง และกำลังประสบภัยแล้ง ขณะนี้แหล่งกักเก็บน้ำหลักทั้ง 9 แห่ง จ่ายน้ำเพื่อการบริโภคอุปโภคเป็นหลัก งดจ่ายน้ำเพื่อการเกษตร แต่ก็ได้ประชามสัมพันธ์ให้เกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อยแล้ว ส่วนน้ำบริโภคอุปโภคนั้นมีการวางแผนจ่ายน้ำวันละไม่เกิน 2 แสนลูกบาศก์เมตร เพื่อให้สามารถมีน้ำใช้อีกอย่างน้อย 4-5 เดือน

“ดังนั้น นอกจากการรอฝนตกตามฤดูกาลแล้ว ยังหวังการทำฝนหลวงเพื่อบรรเทาภัยแล้งให้แก่ประชาชนอีกทางหนึ่ง จากรายงานสภาพอากาศที่ขณะนี้ยังมีอุปสรรคทั้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ความชื้นต่ำ ทำให้ยังไม่สามารถขึ้นบินทำฝนหลวงได้ภายใน 2-3 วันนี้ แต่คาดว่าหากมีสภาพอากาศเหมาะสมการทำฝนหลวงจะประสบความสำเร็จได้แน่นอน ซึ่งในช่วงของการเปิดปฏิบัติการฝนหลวง 2-3 เดือนนี้ ผมคาดหวังว่าจะสามารถทำฝนหลวงเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำโซนเหนือของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้อย่างน้อย 20-30 ลูกบาศก์เมตร รวมทั้งสร้างความชุ่มชื้นให้พื้นที่ เพื่อที่เกษตรกรจะได้วางแผนเพาะปลูกพืช บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้” ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าว