xs
xsm
sm
md
lg

รองอธิบดีพัฒนาสังคมยันไม่ได้ทอดทิ้ง “ลุงเอี่ยม” อดีตขอทานเงินล้านแห่งวัดไร่ขิง หลังตกเป็นข่าวห้ามขอทานในวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครปฐม - รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการลงพื้นที่เยี่ยม “ลุงเอี่ยม” อดีตขอทานเงินล้านแห่งวัดไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยยืนยันไม่ได้ทอดทิ้ง “ตาเอี่ยม” อย่างที่เป็นข่าว พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

วันนี้ (15 มี.ค. ) เมื่อเวลา 10.00 น. นางขวัญวงศ์ พิกุลทอง รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พร้อมด้วย น.ส.ชวนชม จันทะวงษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครปฐม นางมยุรี ดำเนินผล ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครปฐม และเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่เยี่ยม นายเอี่ยม คัมภิรานนท์ อายุ 65 ปี หรือที่ประชาชนทั่วไปรู้จักกันในนาม “ลุงเอี่ยม” ขอทานเงินล้านแห่งวัดไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งปัจจุบันลุงเอี่ยม ได้เลิกอาชีพขอทานตามพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน และได้ย้ายมาอยู่ห้องพักบริเวณร้านค้าสวัสดิการ หน้าวัดไร่ขิง โดยทางวัดได้จัดสถานที่พักให้ พร้อมให้การดูแลร่วมกับชาวบ้านมาตลอด และไม่มีการทอดทิ้งไม่เหลียวแลตามข่าวที่ปรากฏ

นางขวัญวงศ์ พิกุลทอง รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ได้ดำเนินการช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ทอดทิ้งลุงเอี่ยมเหมือนที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ โดยศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครปฐม ได้ลงพื้นที่เยี่ยมลุงเอี่ยมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ แต่ ลุงเอี่ยม ไม่ประสงค์เข้ารับการสงเคราะห์ในสถานสงเคราะห์ เนื่องจากมีความผูกพันกับวัดไร่ขิง และมีความประสงค์จะอยู่ที่วัด

นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้รับสิทธิสวัสดิการของรัฐ เช่น เบี้ยผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการ และการรักษาพยาบาล ซึ่งลุงเอี่ยม นับเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคมในการเคารพกฎหมาย สมกับที่เคยได้รับรางวัลประชาบดีประเภทบุคคลผู้อยู่ในภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่นเมื่อปี 2555 ทั้งนี้ ประชาชนที่มีความประสงค์อยากจะนำเงิน หรือสิ่งของมาช่วยเหลือลุงเอี่ยม สามารถเดินทางมามอบให้ที่บ้านพักได้ตามปกติ เนื่องจากไม่ถือว่าเป็นการขอทาน

โอกาสนี้ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ยังได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ ลุงเอี่ยม อีกทั้งสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครปฐม จะได้ดำเนินการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของลุงเอี่ยม เพื่อขอรับการช่วยเหลือในส่วนขอเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 800 บาท และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ซึ่งลุงเอี่ยม ได้ยินยอมในการรับเงินช่วยเหลือดังกล่าวแล้ว

“โดยกระแสข่าวดังกล่าวได้มีการเผยแพร่ออกไปทำนองว่า หลังจากมี พ.ร.บ.ออกมาห้ามมีคนพิการอยู่ภายในวัดต่างๆ ลุงเอี่ยม จึงได้ถูกห้ามเข้าวัด และต้องไปอาศัยอยู่กับชาวบ้านโดยไร้การเหลียวแล ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (14 มี.ค.) ทำให้สื่อต่างๆ ให้ความสนใจติดตามเกาะกระแสข่าวดังกล่าว เนื่องจากมีผู้คนให้ความสนใจ และแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างมากมาย ซึ่งตอนนี้ไม่ทราบว่าการปล่อยข่าวดังกล่าวออกมานั้นมีจุดประสงค์อย่างไร หรือมีการขัดแย้งต่อกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งไม่ทราบจุดประสงค์ที่ชัดเจนว่าต้องการทำให้เกิดข่าวนี้ขึ้นเพื่ออะไร” รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น