ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตามส่องปมรถนักท่องเที่ยวจีนทะลักเที่ยวไทย พบสถิติพุ่งพรวด 3 ปีติด แถมล่าสุดมี “รถบ้าน” โผล่หนาตามากขึ้น รัฐไร้มาตรการรองรับ กระทบคนท้องถิ่นทั่วหน้า ก่อสารพัดปัญหาทั้งขับผิดกฎจราจร-เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุซ้ำซาก-สุขอนามัย ฯลฯ ด้านภาคธุรกิจยัน “จีน” ขุมทองเที่ยวไทย พร้อมถอดบทเรียน มช.จัดการนักท่องเที่ยวจีนอยู่หมัด
ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่านักท่องเที่ยวชาวจีนคือกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง มีการเดินทางเข้ามาต่อเนื่องตลอดทั้งปี และยิ่งหนาแน่นมากในช่วงเทศกาล
นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้นอกจากจะเดินทางเข้ามาด้วยสายการบินแล้ว ปัจจุบันพบว่านักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมขับรถยนต์ส่วนตัวมาตามเส้นทางคุนหมิง-กรุงเทพฯ ผ่านถนนสาย R3a ข้ามพรมแดนแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว-อ.เชียงของ จ.เชียงราย เข้ามาท่องเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ไทยไม่มีมาตรการคัดกรองใดๆ
โดยมีทั้งรถยนต์ส่วนตัวที่ขับกันมาเป็นกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว, ขับกันมาเป็นคาราวาน, ขับมาโดยมีบริษัทนำเที่ยว และรถบ้าน
สังเกตได้จากสถิติรถ-คนจีนเข้าออกผ่านด่าน ตม.เชียงของ (สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ข้ามน้ำโขงแห่งที่ 4 ที่เชื่อมกับเส้นทาง R3a) จากปี 56 มีรถจีนผ่านด่านฯ 1,487 คัน คน 21,631 คน ปี 57 เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเป็น 4,883 คัน 27,717 คน และปี 58 ที่ผ่านมาสถิติรถจีนผ่านด่านฯ พุ่งพรวดเป็น 9,248 คัน จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 43,555 คน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาจากขบวนรถนักท่องเที่ยวจีนที่ทะลักเข้ามาในภาคเหนือตอนบน ก็คือ ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับคนท้องถิ่น ทั้งเรื่องปัญหาการจราจร อุบัติเหตุ รวมถึงความวิตกกังวลเรื่องผลกระทบจากรถบ้าน ทั้งเรื่องความสะอาด สุขอนามัย รวมถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับผลดีต่างๆ ต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่ เช่น ไม่เสียเงินพักโรงแรม ไม่ใช้บริการร้านอาหาร หรืออาจไปก่อความวุ่นวายในการใช้พื้นที่สาธารณะต่างๆ เป็นต้น
กรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ห้วงตรุษจีนปี 59 ที่ผ่านมา เมื่อนักท่องเที่ยวชาวจีนขับรถสวนเลนชนรถคนไทยในท้องที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีการเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 3 แสนบาท แต่กลับมีการต่อรองเหลือไม่ถึง 1 แสนบาท ก่อนที่จะมีการเจรจาไกล่เกลี่ยกันหลายครั้งจนยุติลงที่ 220,000 บาท ขณะที่อีกหลายคดีไม่จบ!!
(อ่านเรื่อง : “คู่กรณีจีนต้องอ่าน! พบนายหน้าค้าความจีนโผล่ อ้างกงสุลฯ หากินคดีรถจีนชนไทย” http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000014390 ประกอบ)
ปีนี้เชียงใหม่จับรถจีนแล้วเป็นพัน
พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.ชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนนิยมขับรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งล่าสุดในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมามีรถยนต์ของนักท่องเที่ยวจีนขับเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ทั้งสิ้นกว่า 1,000 คัน
ส่วนรถบ้านตามรายงานพบว่ามีเข้ามาจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มาก และเกือบทั้งหมดไม่ได้เข้ามาท่องเที่ยวในตัวเมือง แต่ไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในพื้นที่รอบนอก ทำให้จึงแทบจะไม่พบเห็นรถบ้านของนักท่องเที่ยวชาวจีนวิ่งไปมาในตัวเมืองเหมือนรถยนต์ส่วนตัว
พล.ต.ต.มนตรียอมรับว่า การที่นักท่องเที่ยวจีนขับรถยนต์เข้ามาท่องเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้นนั้นก่อให้เกิดปัญหาการจราจรเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเขตตัวเมือง ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการที่การเดินรถของไทยแตกต่างจากของจีนทำให้นักท่องเที่ยวจีนไม่ชำนาญ และกฎจราจรบางอย่างที่แตกต่างกันด้วย
“เฉพาะปีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจจับดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวจีนที่กระทำผิดกฎหมายจราจรได้เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นความผิดกรณีไม่มีใบขับขี่กว่า 1,000 ราย และฝ่าฝืนกฎจราจรประมาณ 20 ราย ซึ่งช่องโหว่ที่พบและเป็นปัญหาอยู่ คือ การที่ไทยและจีนมีข้อกฎหมายผูกมัดกันให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถใช้ใบขับขี่จีนในไทยได้ ทำให้มีการนำรถเข้ามาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง”
นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวจีนอีกจำนวนหนึ่งที่เข้ามาเช่ารถทั้งรถยนต์-จักรยานยนต์ขับขี่ท่องเที่ยวเอง ซึ่งได้เน้นย้ำกำชับไปที่ผู้ประกอบการรถเช่าให้ตรวจสอบทุกครั้งว่านักท่องเที่ยวมีใบขับขี่ และต้องปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง ส่วนรถบริการสาธารณะก็เน้นย้ำให้บริการอย่างมีมาตรฐานและไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว ทั้งคิดค่าโดยสารเกินจริงหรือทิ้งผู้โดยสารกลางทาง ซึ่งหากพบจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม กรณีปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ที่ผ่านมาได้มีการรวบรวมข้อมูลและประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วประสานแจ้งไปยังทางกงสุลจีนประจำเชียงใหม่ให้ทราบแล้ว รวมทั้งประสานขอความร่วมมือไปที่บริษัททัวร์ หรือโรงแรมที่พักให้ช่วยประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย และมารยาทจราจรของไทยให้นักท่องเที่ยวจีนทราบด้วยเพื่อบรรเทาปัญหา
ขณะที่การป้องกันแก้ไขปัญหาระยะยาวจะมีการรวบรวมข้อมูลนำเสนอให้หน่วยงานระดับสูงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือกรมการขนส่งทางบก เป็นต้น เพื่อวางแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาต่อไป
ยัน นทท.จีน ขุมทองท่องเที่ยวไทย
ด้านนายพรชัย จิตรนวเสถียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมขับรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาท่องเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น ซึ่งยอมรับว่าอาจจะมีการก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นบ้าง
อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องการให้มองว่าเป็นความผิดของนักท่องเที่ยวชาวจีนแต่ฝ่ายเดียว แต่ต้องยอมรับด้วยว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาจากการที่เราเองขาดการเตรียมความพร้อมที่จะรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เช่น ไม่มีการออกกฎระเบียบใดๆ รองรับไว้ก่อน แต่กลับปล่อยให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้ามา และต้องมาตามแก้ไขปัญหากันภายหลัง เป็นต้น
สำหรับกรณีรถบ้านที่พบว่าเริ่มมีการขับเข้ามาท่องเที่ยวบ่อยครั้งขึ้นนั้น นายพรชัยบอกว่า ในยุโรปและอเมริกาเป็นเรื่องปกติที่คนจะขับรถบ้านท่องเที่ยวกัน และนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นกลุ่มคนที่มีการศึกษาดี โดยที่ตามเส้นทางท่องเที่ยวจะมีผู้ให้บริการจุดจอดที่มีการเก็บค่าใช้จ่ายสำหรับบริการสาธารณูปโภคพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกตามสมควรให้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ แต่อาจจะเป็นสิ่งแปลกใหม่ของการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ยังไม่มีบริการดังกล่าว
“ที่จริงรถบ้านที่เข้ามาน่าจะยังมีสัดส่วนเพียงประมาณ 1% เท่านั้น และมองว่าการที่นักท่องเที่ยวขับรถบ้านเข้ามา หรือจะมาท่องเที่ยวด้วยช่องทางใดก็ตามไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใดในการต้อนรับ เพียงแต่จะต้องมีการวางแผนบริหารจัดการรองรับให้ดีเท่านั้น”
นายพรชัยบอกอีกว่า แนวทางเบื้องต้นที่เป็นไปได้ในการรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนขับรถบ้านเข้ามาท่องเที่ยว คือ การออกข้อบังคับชั่วคราว กำหนดข้อปฏิบัติต่างๆ ให้รถบ้านที่จะข้ามแดนเข้ามาท่องเที่ยวต้องทำตามอย่างเคร่งครัด โดยทำความเข้าใจให้ตรงกันตั้งแต่ด่านพรมแดน ทั้งการห้ามจอดค้างแรมในพื้นที่สาธารณะอย่างเด็ดขาด แต่จะต้องไปจอดในจุดที่อนุญาตเท่านั้น
เบื้องต้นมองว่าต้องเป็นโรงแรม รีสอร์ต หรือที่พักที่มีใบอนุญาต ที่อาจจะมีการจัดสรรพื้นที่ลานจอดรถหรือพื้นที่เหมาะสมรองรับการให้บริการรถบ้านได้ และเก็บค่าบริการอย่างเหมาะสม ส่วนในกรณีที่รถบ้านไปท่องเที่ยวตามอุทยานแห่งชาติ เชื่อว่าน่าจะมีปัญหาน้อยกว่าการเข้ามาท่องเที่ยวในตัวเมือง เพราะน่าจะมีกฎระเบียบและพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวในลักษณะของการค้างแรมอยู่แล้ว
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ระบุด้วยว่า สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ขับรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาท่องเที่ยวนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่เดินทางมาด้วยสายการบินแล้วถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงกว่า แต่กลุ่มที่ขับรถบ้านยิ่งมีฐานะดีและกำลังซื้อสูงยิ่งกว่า ดังนั้นแทนที่จะมองว่าการเข้ามาของนักท่องเที่ยวนี้เป็นการก่อปัญหา ควรจะมองว่าเป็นโอกาสสำหรับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่มากกว่า โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจำเป็นจะต้องปรับตัวและมีการวางแผนบริหารจัดการรองรับให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์จากโอกาสดังกล่าวนี้
ถอดบทเรียนแก้ปม นทท.จีน ป่วน มช.
ทั้งนี้ 2-3 ปีก่อนคลื่นนักท่องเที่ยวจีนเคยสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) มาแล้วครั้งหนึ่ง มีทั้งการเช่าชุดครุยมาถ่ายรูปรับปริญญา โพสท่าถ่ายรูปในมหาวิทยาลัยฯ แบบไม่เหมาะสม เดินเข้าไปถ่ายรูปในห้องเรียนที่กำลังมีการเรียนการสอน หรือจะตั้งเต็นท์นอนพักค้างแรมใน มช. เป็นต้น
คราวนั้นเกิดกระแสต่อต้านโจมตีนักท่องเที่ยวจีนอย่างกว้างขวาง!!
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันในแต่ละวันยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าเที่ยวชม มช.อย่างต่อเนื่อง แต่เป็นการท่องเที่ยวภายใต้กฎระเบียบและเงื่อนไขการเข้าเที่ยวชมของ มช.ที่กำหนดให้ใช้บริการรถนำเที่ยวของ มช.เท่านั้น ห้ามนำรถส่วนตัวเข้าในเขต มช.และจอดไว้ในจุดที่กำหนด พร้อมจัดบริการต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวอย่างเหมาะสม ทำให้ทุกวันนี้ มช.แทบจะไม่ประสบปัญหาเหมือนที่ผ่านมา และนักท่องเที่ยวชาวจีนก็สามารถปรับตัวได้ดีขึ้นด้วย
อาจารย์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมีบ้านพักอยู่ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากนักท่องเที่ยวชาวจีนเหมือนในช่วงหลายปีก่อนแทบจะไม่มีแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ทาง มช.กำหนดกฎระเบียบในการเข้าเที่ยวชมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน และชาวต่างชาติอื่นๆ ด้วย ที่จะต้องใช้บริการที่ทาง มช.จัดไว้ให้เท่านั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะไม่สามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้เองตามอำเภอใจเลย แต่ก็เป็นที่พึงพอใจของนักท่องเที่ยว
“ช่วงที่ในตัวเมืองเชียงใหม่รู้สึกว่ามีรถยนต์ส่วนตัวของนักท่องเที่ยวจีนวิ่งไปมาทั่วเมือง แต่ในเขตของ มช.จะไม่มีปัญหานี้เลย เพราะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะไม่อนุญาตให้ขับเข้าไปเที่ยวใน มช.อย่างเด็ดขาด ซึ่งหากเป็นช่วงหลายปีก่อนยอมรับว่าอาจจะมีปัญหาความวุ่นวายเกิดขึ้นแล้ว และบางทีอาจจะมีรถบ้านที่เริ่มพบเห็นเข้ามาจอดค้างแรมใน มช.แล้วก็เป็นได้”
แหล่งข่าวรายเดียวกันนี้ระบุว่า ในแต่ละเดือน มช.มีรายได้จากการให้บริการนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนไม่น้อย ซึ่งน่าจะเป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นใน มช.เมื่อหลายปีก่อนนั้นที่จริงแล้วไม่ได้เป็นปัญหา แต่เป็นเรื่องของการปรับตัวเข้าหากันมากกว่า เพราะในเวลานั้นยังไม่มีมาตรการหรือการวางแผนใดๆ รองรับไว้
ขณะที่ในภาพรวมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่มองว่าก็น่าจะเป็นเช่นเดียวกัน ที่มีความจำเป็นจะต้องปรับตัวและมีการวางมาตรการรองรับการทะลักเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวจีนให้ได้ โดยต้องไม่มองว่าเป็นปัญหา แต่ต้องเห็นเป็นโอกาส เพราะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ในโลกการค้าเสรีอย่างทุกวันนี้
ขนส่งเร่งล้อมคอก-วางกรอบคุมต่างชาติขับรถเข้าไทย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่ากรมการขนส่งทางบกกำลังแก้ไขพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2557 จัดทำร่างประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาต การอนุญาต ระยะเวลาการใช้รถ และเครื่องหมายแสดงการใช้รถที่นำเข้ามาในประเทศเป็นการชั่วคราว เพื่อใช้ในการท่องเที่ยว หรือเพื่อการอื่นอันจำเป็นในการใช้รถ
โดยกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้จะนำรถเข้ามาใช้ในประเทศไทยต้องแจ้งขออนุญาตล่วงหน้า มีเอกสารเกี่ยวกับรถและคนขับรถครบถ้วน มีรายละเอียดโปรแกรมการเดินทาง ผู้ขับรถต้องมีใบอนุญาตขับรถ มีการจัดทำประกันภัยรถยนต์ หากเอกสารตามหลักเกณฑ์ครบถ้วนแล้วจึงดำเนินการจัดเก็บค่าธรรมเนียม และออกเครื่องหมายแสดงการใช้รถสำหรับติดประจำรถตลอดระยะเวลาการใช้รถในประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังเร่งหารือกับหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจปล่อยยานพาหนะที่ด่านพรมแดนในการจัดทำระบบเชื่อมโยงข้อมูลการอนุญาตระหว่างกรมการขนส่งทางบกกับหน่วยงานต่างๆ พร้อมทั้งเพิ่มมาตรการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจรของไทย มารยาทในการขับรถ เครื่องหมายหรือความหมายของป้ายต่างๆ ที่จำเป็น เพื่อความปลอดภัยของทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นำรถเข้ามาใช้ในประเทศและผู้ใช้รถใช้ถนนในประเทศด้วย
และต้องจับตาเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง เพราะจะมีกลุ่มทัวร์จีนเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทย เพราะฉะนั้นต้องเร่งหามาตรการออกมาล้อมคอกก่อนจะเกิดปัญหาตามมา