ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตามรอยล่ามแสบ โผล่เป็นนายหน้าค้าความจีน พบกลุ่ม นทท.จีนบอกต่อกันหา Google เบอร์โผล่ทันที ด้านสมาคมท่องเที่ยวฯ ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ทั้งไม่ได้เป็นมัคคุเทศก์ ไม่เกี่ยวกับกงสุลฯ เล็งเสนอระดับนโยบายออกกฎบังคับรถจีนทำประกันก่อนข้ามพรมแดนเข้าไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมขับรถยนต์ส่วนตัวผ่านพรมแดนสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สป.จีน มาตามเส้นทาง R3a (ส่วนหนึ่งของถนนคุนมั่ง-กงลู่ หรือคุนหมิง-กรุงเทพฯ) เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮองสอน ฯลฯ กันมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ จะพบรถยนต์ป้ายทะเบียนจีนวิ่งตามเส้นทางสายหลัก แหล่งท่องเที่ยวสำคัญกันเป็นขบวนนั้น
แม้ว่าในทางหนึ่งจะทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในภาคเหนือตอนบนคึกคักขึ้น แต่ “รถทะเบียนจีน” เหล่านี้กลับกลายเป็นที่หวาดผวาของคนท้องถิ่นผู้ใช้รถใช้ถนนโดยทั่วไป
ทั้งนี้ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถนักท่องเที่ยวจีนเฉี่ยวชนกับรถคนไทย มักจะมีปัญหาเกิดขึ้นตามมาเป็นพรวน เนื่องจากรถนักท่องเที่ยวจีนไม่ได้ทำประกันภัยไว้ มีปัญหาการสื่อสาร ทำให้การเจรจาเรียกร้องค่าเสียหายทำได้ยุ่งยาก ฯลฯ
ล่าสุด ปัญหาดังกล่าวก็เกิดอุบัติเหตุรถนักท่องเที่ยวจีนชนกับรถยนต์คนไทย ในท้องที่ สภ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ อย่างน้อย 2 ราย ที่ทำให้คู่กรณีที่เป็นคนไทยต้องหัวหมุนเคลียร์ปัญหากันวุ่น (อ่านเรื่อง “คู่กรณีจีนต้องอ่าน! พบนายหน้าค้าความจีนโผล่ อ้างกงสุลฯ หากินคดีรถจีนชนไทย http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000014390 ประกอบ)
นายณัฏฐพงษ์ ชงโคสันติสุข อายุ 35 ปี และ น.ส.รุ่งทิพย์ กันทา อายุ 35 ปี เจ้าของรถยนต์มาสด้า ที่ถูกนักท่องเที่ยวจีนขับรถสวนเลนชนจนรถยนต์ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดบนถนนเชียงใหม่-เชียงราย ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 5 ก.พ.59 เวลาประมาณ 23.00 น. เล่าข้อสังเกตที่ได้จากประสบการณ์ตรงว่า หลังเกิดเหตุนักท่องเที่ยวจีนได้ค้นหาคนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจาก Google ซึ่งจะมีหมายเลขโทรศัพท์โชว์ขึ้นมา คือ หมายเลข 0910789...
เมื่อนักท่องเที่ยวจีนติดต่อไปก็จะเจอคนไทยที่อ้างตัวเป็นล่ามจากสถานกงสุล สป.จีน ประจำจังหวัดเชียงใหม่ มาเป็นล่าม และทำหน้าที่เป็นธุระจัดการเจรจาตกลงค่าเสียหายให้แก่นักท่องเที่ยวจีนที่เป็นคู่กรณี โดยที่จะเสนอชดใช้ค่าเสียหายให้ต่ำกว่าที่เป็นจริง และคอยบ่ายเบี่ยง หรือปฏิเสธอยู่ตลอดที่จะให้ผู้เสียหายที่เป็นคนไทยจัดหาล่ามภาษาจีนของตัวเองมาทำหน้าที่ช่วยเจรจากับคู่กรณี ทำให้การเจราจาตกลงมักจะจบลงด้วยการที่คนไทยเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะไม่ต้องการที่จะเสียเวลายืดเยื้อ
อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบโดยสอบถามไปยังทางกงสุลฯ จีน ประจำเชียงใหม่ เกี่ยวกับล่ามคนดังกล่าวที่มาช่วยเจรจาตกลง ปรากฏว่า กงสุลฯ ปฏิเสธความเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ จากการได้พูดคุยกับคู่กรณีภายหลังกลับพบว่า แท้จริงแล้วคู่กรณีพร้อมที่จะรับผิดชอบ และชดใช้ค่าเสียหายทุกอย่างตั้งแต่แรก
แต่เป็นเพราะล่ามที่มาเป็นตัวกลางพูดคุย ลักษณะนายหน้าค้าความให้แก่ชาวจีน ทำให้เรื่องทุกอย่างยุ่งยาก และยืดเยื้อ!!
ด้าน นายพรชัย จิตรนวเสถียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีของพฤติกรรมของล่ามภาษาจีนคนดังกล่าวว่า ขณะนี้ทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว และได้ตรวจสอบไปยังชมรมมัคคุเทศก์รักษ์ล้านนา ที่เป็นกลุ่มมัคคุเทศก์ภาษาจีน พบว่า ล่ามคนนี้ไม่ได้เป็นมัคคุเทศก์ ขณะที่กงสุลฯ จีนประจำเชียงใหม่ ก็ระบุว่า ไม่เป็นตัวแทนของทางกงสุลฯ ด้วย
ดังนั้น สมาคมฯ จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพฤติกรรมของล่ามคนดังกล่าวนี้ว่า เข้าข่ายการกระทำความผิดตามกฎหมายใดหรือไม่ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อภาพรวมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดกันระหว่างคนไทย กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามา
นายพรชัย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมขับรถยนต์ส่วนตัวข้ามพรมแดนเข้ามาท่องเที่ยวในเชียงใหม่มากขึ้น จากปกติวันละประมาณ 100 คัน ช่วงเทศกาลอาจเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 300-500 คัน ซึ่งบางครั้งอาจเกิดอุบัติเหตุ และปัญหาลักษณะดังกล่าวขึ้นได้
ในกรณีที่เกิดเหตุขึ้นอีกในอนาคต แนะนำให้คู่กรณีแจ้งประสานขอความช่วยเหลือมาที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ได้ โดยจะช่วยจัดหาล่ามที่เชื่อถือได้มาทำหน้าที่ในการพูดคุยสื่อสารเจรจาตกลงกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาจากกรณีอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถยนต์ของนักท่องเที่ยวจีนในอนาคต ทางสมาคมฯ เตรียมจะนำเสนอผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับนโยบาย กำหนดให้รถยนต์ของนักท่องเที่ยวจีนที่จะขับข้ามแดนมาเที่ยวในประเทศไทย จะต้องทำประกันภัยด้วย