อพท. จับมือกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ยกระดับผู้ประกอบการโรงแรมเมืองพัทยาเข้าสู่การเป็นโรงแรมสีเขียวที่มีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้า 40 แห่ง ในปี 2559 ก่อนขยายผลไปยังพื้นที่พิเศษอื่นๆ ของ อพท.
พันเอก ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. กล่าวว่า เพื่อให้การทำงานสัมฤทธิผลในด้านการเป็นหน่วยงานองค์ความรู้ และบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในปี 2559 อพท. จะสร้างภาคีเครือข่ายผ่านความร่วมมือในด้านต่างๆ อันจะทำให้ชุมชน และผู้ประกอบการได้นำองค์ความรู้ที่ได้รับมาพัฒนาตัวเองเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ล่าสุด อพท.ร่วมกับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำร่องพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง เป้าหมายเพื่อให้เกิดการบูรณาการการบริหารการพัฒนาด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาทรัพยากรการท่องเที่ยวของพื้นที่ให้เกิดความสมดุล ทำให้การท่องเที่ยวมีความยั่งยืน และเพื่อแสดงออกถึงความร่วมมือในการบูรณาการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่พิเศษเมืองพัทยา และพื้นที่เชื่อมโยง
ข้อตกลงฉบับนี้เน้นสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง มีรูปแบบการทำงานใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่
1.ร่วมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และประสานงานให้เกิดความร่วมมือในการบูรณาการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่พิเศษเมืองพัทยา และพื้นที่เชื่อมโยง และสร้างความตระหนัก และความเข้าใจให้แก่สถานประกอบการในเรื่องของการให้บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
2.อพท. เป็นผู้ดำเนินการสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วม และเสริมสร้างศักยภาพให้แก่สถานประกอบการในพื้นที่พิเศษเมืองพัทยา และพื้นที่เชื่อมโยงในการบริหารจัดการสถานประกอบการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมจัดทำมาตรการในการพัฒนาสถานประกอบการให้ได้มาตรฐานสากล
3.กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ดำเนินการจัดทำองค์ความรู้ การตรวจประเมินระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมของสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมประชาสัมพันธ์ เผยแพร่สถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การประเมินให้เป็นที่รับรู้ต่อสาธารณชน
“ปี 2558 อพท. พื้นที่พิเศษเมืองพัทยา ริเริ่มโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่จำกัดในพื้นที่ขนาดเล็ก ได้แก่ เกาะล้าน โดยเชิญชวนผู้ประกอบการเข้าร่วมเป็นสถานประกอบการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเกาะล้านมีปัญหาเรื่องน้ำจืด ไฟฟ้า และขยะ โดย อพท. ใช้เกณฑ์มาตรการลดภาวะโลกร้อนของ อพท.ในการประเมินสถานประกอบการ ประกอบด้วย 1.การบําบัดนํ้าเสีย 2.การนํานํ้ากลับมาใช้ใหม่ 3.การจัดการขยะ และ 4.การใช้นํ้าและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ”
จากการทำงานที่เกิดผลสำเร็จ ผู้ประกอบการมีความตื่นตัวเข้าร่วมโครงการ ดังนั้น ปีงบประมาณ 2559 จึงขยายผลโดยหาภาคีเครือข่ายเพิ่มเติม ซึ่งกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานที่กำหนดมาตรฐานโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Hotel หาก อพท. นำมาตรฐานดังกล่าวนี้มาส่งเสริมให้โรงแรมที่เป็นภาคีเครือข่ายได้เข้าร่วมโครงการ เท่ากับช่วยยกระดับมาตรฐานด้านการบริการ และการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้ประกอบการโรงแรมในเมืองพัทยาได้เทียบชั้นระดับสากล เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และลดการปลดปล่อยของเสียออกสู่สภาวะแวดล้อม
ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายมีผู้ประกอบการโรงแรมเข้าร่วมโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 40 แห่งปีนี้ โดยโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการต้องเป็นโรงแรมที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วย เท่ากับช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้แก่โรงแรมในเมืองพัทยา ในอนาคต อพท.ยังมีแผนที่จะขยายผลโครงการนี้ออกไปยังพื้นที่พิเศษอื่นๆ ของ อพท.ด้วยเช่นกัน
พันเอก ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. กล่าวว่า เพื่อให้การทำงานสัมฤทธิผลในด้านการเป็นหน่วยงานองค์ความรู้ และบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในปี 2559 อพท. จะสร้างภาคีเครือข่ายผ่านความร่วมมือในด้านต่างๆ อันจะทำให้ชุมชน และผู้ประกอบการได้นำองค์ความรู้ที่ได้รับมาพัฒนาตัวเองเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ล่าสุด อพท.ร่วมกับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำร่องพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง เป้าหมายเพื่อให้เกิดการบูรณาการการบริหารการพัฒนาด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาทรัพยากรการท่องเที่ยวของพื้นที่ให้เกิดความสมดุล ทำให้การท่องเที่ยวมีความยั่งยืน และเพื่อแสดงออกถึงความร่วมมือในการบูรณาการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่พิเศษเมืองพัทยา และพื้นที่เชื่อมโยง
ข้อตกลงฉบับนี้เน้นสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง มีรูปแบบการทำงานใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่
1.ร่วมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และประสานงานให้เกิดความร่วมมือในการบูรณาการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่พิเศษเมืองพัทยา และพื้นที่เชื่อมโยง และสร้างความตระหนัก และความเข้าใจให้แก่สถานประกอบการในเรื่องของการให้บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
2.อพท. เป็นผู้ดำเนินการสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วม และเสริมสร้างศักยภาพให้แก่สถานประกอบการในพื้นที่พิเศษเมืองพัทยา และพื้นที่เชื่อมโยงในการบริหารจัดการสถานประกอบการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมจัดทำมาตรการในการพัฒนาสถานประกอบการให้ได้มาตรฐานสากล
3.กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ดำเนินการจัดทำองค์ความรู้ การตรวจประเมินระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมของสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมประชาสัมพันธ์ เผยแพร่สถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การประเมินให้เป็นที่รับรู้ต่อสาธารณชน
“ปี 2558 อพท. พื้นที่พิเศษเมืองพัทยา ริเริ่มโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่จำกัดในพื้นที่ขนาดเล็ก ได้แก่ เกาะล้าน โดยเชิญชวนผู้ประกอบการเข้าร่วมเป็นสถานประกอบการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเกาะล้านมีปัญหาเรื่องน้ำจืด ไฟฟ้า และขยะ โดย อพท. ใช้เกณฑ์มาตรการลดภาวะโลกร้อนของ อพท.ในการประเมินสถานประกอบการ ประกอบด้วย 1.การบําบัดนํ้าเสีย 2.การนํานํ้ากลับมาใช้ใหม่ 3.การจัดการขยะ และ 4.การใช้นํ้าและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ”
จากการทำงานที่เกิดผลสำเร็จ ผู้ประกอบการมีความตื่นตัวเข้าร่วมโครงการ ดังนั้น ปีงบประมาณ 2559 จึงขยายผลโดยหาภาคีเครือข่ายเพิ่มเติม ซึ่งกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานที่กำหนดมาตรฐานโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Hotel หาก อพท. นำมาตรฐานดังกล่าวนี้มาส่งเสริมให้โรงแรมที่เป็นภาคีเครือข่ายได้เข้าร่วมโครงการ เท่ากับช่วยยกระดับมาตรฐานด้านการบริการ และการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้ประกอบการโรงแรมในเมืองพัทยาได้เทียบชั้นระดับสากล เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และลดการปลดปล่อยของเสียออกสู่สภาวะแวดล้อม
ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายมีผู้ประกอบการโรงแรมเข้าร่วมโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 40 แห่งปีนี้ โดยโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการต้องเป็นโรงแรมที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วย เท่ากับช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้แก่โรงแรมในเมืองพัทยา ในอนาคต อพท.ยังมีแผนที่จะขยายผลโครงการนี้ออกไปยังพื้นที่พิเศษอื่นๆ ของ อพท.ด้วยเช่นกัน
