ดีกว่าทำนา! ตรุษจีนขายดิบขายดี-ชาวสวนส้มโอพิจิตรยิ้มรับทรัพย์อื้อซ่า

พิจิตร - ชาวสวนส้มโอเมืองชาละวันยิ้มรับทรัพย์ถ้วนหน้า ตรุษจีนขายดี แถมราคาสูง เผยทั้งจังหวัดฯ มีคนปลูกแล้วกว่าหมื่นไร่ ได้ผลผลิตกว่า 2.3 หมื่นตัน/ปี ทำเงินเข้าจังหวัดฯ ไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท

นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวหลังร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อติดตามโครงการลดพื้นที่การทำนาและการปลูกพืชใช้น้ำน้อย โดยไปพบกับเกษตรกรชาวสวนส้มโอในเขตอำเภอโพธิ์ประทับช้าง ที่หันมาปลูกส้มโอพันธุ์ท่าข่อย ขาวแตงกวา ทองดี เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ขณะนี้ชาวนาพิจิตรหันมาปลูกส้มโอแล้ว 10,460 ไร่ เกษตรกร 451 ราย ปลูกมากที่สุดในเขต อ.โพธิ์ประทับช้าง 7,830 ไร่

รองลงมาคือ อ.เมืองพิจิตร 3,167 ไร่ ปีหนึ่งๆ มีผลผลิตประมาณ 23,500 ตัน ขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีศูนย์รวมผลผลิตที่มีมาตรฐานเพื่อการส่งออก ปีหนึ่งๆ ทำเงินเข้าจังหวัดเกือบ 600 ล้านบาท

ซึ่งช่วงนี้ใกล้เทศกาลตรุษจีนจึงทำให้ขายได้ราคาดี โดยส้มโอท่าข่อยได้ราคากิโลกรัมละ 15 บาท ส่วนส้มโอขาวแตงกวา และทองดี ได้ราคาสูงถึง กก.ละ 35 บาท

นายวีระ ราชชมภู อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/3 หมู่ 8 บ้านท่ากร่าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ปลูกส้มโอพันธุ์ขาวแตงกวา และทองดี บนเนื้อที่ 30 ไร่ จำนวน 900 ต้น ยืนยันว่าปลูกส้ม 1 ไร่ ได้ผลผลิตเป็น 10 ตัน สร้างรายได้นับแสนบาทต่อไร่ต่อปี ดีกว่าทำนาหลายสิบเท่า แต่ต้องใส่ใจ รวมถึงต้องให้น้ำด้วยระบบน้ำหยดสู้ภัยแล้งที่เกิดขึ้น ซึ่งมีต้นทุนสูงพอสมควร แต่คิดหักลบกลบหนี้แล้วดีกว่าทำนาแน่นอน

นายวีระเล่าต่อว่า เรื่องการตลาดช่วงใกล้ตรุษจีน ตนได้เก็บผลผลิตขายไป 15 ตัน ได้เงินเข้ากระเป๋า 450,000 บาท เนื่องจากส้มโอในช่วงนี้กระทบหนาว และภัยแล้ง ทำให้ได้ผลผลิตไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ก็ได้ราคามาชดเชย ซึ่งตนเองก็พอใจ ส้มโอ 1 ต้นใช้เวลาปลูกเกือบ 3 ปี ก็จะเก็บผลผลิตได้ปีละ 2 ครั้ง หรือเฉลี่ย 250 ผลต่อปี ถ้าคิดเป็นน้ำหนักก็จะได้ประมาณ 350 กก.ต่อต้นต่อปี แต่โดยเฉลี่ยผลผลิตส้มโอ 3 ต้น ก็จะได้ 1 ตัน หรือ 1,000 กก. จึงนับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจของพิจิตรอีกแขนงหนึ่ง