xs
xsm
sm
md
lg

“เซ็นทรัล” เดินหน้าแก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากร จับมือสถาบันอาชีวะออกแบบหลักสูตรการเรียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา- “กลุ่มเซ็นทรัล” ลุยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านงานบริการ ด้วยการจับมือสถาบันการศึกษาด้านอาชีวะ ดำเนินโครงการโครงการ 3 ม. (มีงาน มีเงิน มีวุฒิการศึกษาเพิ่ม) การจัดการเรียนการสอนระบบทวิภาคี (สอนเสริมสื่อออนไลน์) ด้วยการออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอนให้สอดคล้องต่อความต้องการของสถานประกอบการ เผยปัจจุบัน 70% ของพนักงานเป็นบุคลากรที่จบการศึกษาด้านอาชีวศึกษา

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด โดย น.ส.จารุวรรรณ งามพิสุทธิ์ไพศาล ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล กลุ่มงานเซ็นทรัล จำกัด ได้ลงนามความร่วมมือในโครงการ 3 ม. (มีงาน มีเงิน มีวุฒิการศึกษาเพิ่ม) การจัดการเรียนการสอนระบบทวิภาคี (สอนเสริมสื่อออนไลน์) ร่วมกับวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อี.เทค) โดย ดร.ประเสริฐ กลิ่นชู ผู้อำนวยการวิทยาลัยฯ ซึ่งพิธีดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้องประชุมวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก จุดประสงค์สำคัญก็เพื่อให้นักศึกษาเกิดทักษะในวิชาชีพ มีประสบการณ์ตรงจากสถานประกอบการของกลุ่มเซ็นทรัล โดยจะได้รับค่าจ้างที่จะสามารถนำไปใช้ลดรายจ่ายภายในครัวเรือนได้

ทั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งเป็นสถานประกอบที่เป็นบริษัทภาคบริการที่มีความต้องการกำลังคนที่มีความรู้ ทักษะเฉพาะด้าน หรือผู้ชำนาญการด้านวิชาชีพจำนวนมาก ได้ตกลงรับนักศึกษาจากวิทยาลัย อี.เทค เข้าร่วมโครงการ 3 ม. และฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อให้เกิดทักษะในวิชาชีพและมีประสบการณ์ตรงจากสถานประกอบการของบริษัทในเครือกลุ่มเซ็นทรัล โดยบริษัทฯ ตกลงที่จะจ่ายค่าจ้าง และสวัสดิการต่างๆ ให้แก่นักศึกษาตามโครงการ เพื่อให้ได้ศึกษาต่อในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ตามความสามารถของแต่ละบุคคล

และยังจะร่วมกับวิทยาลัย อี.เทค ในการปฏิบัติงานร่วมกัน เช่น การทำโครงการ งานวิจัย การฝึกอบรม และจัดกิจกรรมให้บริการทางวิชาการและวิชาชีพอีกด้วย

น.ส.จารุวรรรณ กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านอาชีวะในสถานประกอบการภาคบริการยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าสถาบันการศึกษาด้านอาชีวะจะต้องใช้เวลานานพอสมควรในการพัฒนาบุคลากร ขณะที่ภาคเอกชนในฐานะของการเป็นผู้ใช้งานบุคลากร และได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานคุณภาพโดยตรง จะรอเพียงความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างเดียวไม่ได้ และจำเป็นจะต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหา และพยายามในการแสวงหาความร่วมมือในการทำแผนพัฒนาเด็กอาชีวะ ด้วยการร่วมมือกับสถานศึกษาระบบอาชีวศึกา ออกแบบหลักสูตรให้สอดคล้องต่อความต้องการของสถานประกอบการจริงๆ

“อย่างที่ได้เรียนในเบื้องต้นว่า เราเคยรับเด็กในระดับปริญญาตรีเข้ามาทดแทนเด็กอาชีวะที่ขาดแคลน แต่ก็เกิดปัญหามากมาย เพราะเด็กในระดับปริญญาตรีมีความคาดหวังว่าจะต้องทำงานด้านบริหาร ซึ่งก็เป็นไปตามทฤษฎีที่เขาเรียนมา แต่ในส่วนของเด็กอาชีวะจะเน้นหลักสูตรการเรียนการสอนในทางปฏิบัติ และการทำงานจริง ซึ่งในหลายปัจจัยที่ผ่านมา ทำให้เราต้องมองตั้งแต่ขบวนการต้นน้ำในการคัดเลือกเด็กอาชีวะที่มีคุณภาพเข้าทำงาน เริ่มตั้งแต่การหาสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาชีวะ และดูที่กระบวนการคัดเลือกเด็กเข้าเรียน และเราเองจะเป็นผู้ลดภาระของสถาบันการศึกษา ทั้งนี้ เมื่อกระบวนการต้นน้ำดี ด้วยการหาเด็กเข้าสู่ตลาดแรงงาน ก็จะทำให้เราลดต้นทุนด้านการดำเนินการ และพัฒนาได้ง่ายขึ้น”

น.ส.จารุวรรรณ ยังกล่าวอีกว่าปัจจุบันกว่า 70% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดที่ทำงานในกลุ่มเซ็นทรัล เป็นบุคลากรที่จบการศึกษาในระดับอาชีวศึกษา ซึ่งบริษัทฯ จะยังคงมุ่งเน้นคัดเลือกบุคลากรในกลุ่มนี้เข้าทำงานเพื่อลดปัญหาการลาออก และต้องรับคนใหม่เข้าทดแทน เพราะเด็กในระดับอาชีวศึกษามีความเข้าใจ และคุ้นเคยในระบบงานบริการได้เป็นอย่างดี


กำลังโหลดความคิดเห็น