xs
xsm
sm
md
lg

59 องค์กรรัฐ-เอกชน-ประชาสังคม ร่วม MOU คลอด “มาตรการองค์กร” ลดอุบัติเหตุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ระดมพลังประชารัฐเพื่อสังคม “53 องค์กรรัฐ - เอกชน - ประชาสังคม” ร่วม MOU กำหนด “มาตรการองค์กร” เน้น CEO คลอดนโยบายองค์กรเสริมความปลอดภัยทางถนน “หมวกกันน็อก 100% - ลดจุดเสี่ยง -ดื่มไม่ขับ - ลดเร็วลดเสี่ยง”

วันนี้ (5 เม.ย.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หัวหน้าทีมภาครัฐ เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางถนน “ประชารัฐร่วมใจ...ปลอดภัยทุกเส้นทาง” พร้อมด้วย นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย หัวหน้าทีมภาคเอกชน ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) หัวหน้าทีมภาคประชาสังคม คณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคม E6 ณ ศูนย์เอนเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ อาคารซี ชั้น 6 ถนนวิภาวดีรังสิต จตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยมี นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมกับผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม กว่า 53 องค์กร ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางถนน ในครั้งนี้ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ประเด็น ที่คณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคมจะเร่งผลักดันให้เห็นผลในระยะอันใกล้นี้

งาน “ประชารัฐร่วมใจ...ปลอดภัยทุกเส้นทาง” ภายใต้โครงการประชารัฐเพื่อสังคม เป็นความร่วมมือของคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคม ด้านความปลอดภัยทางถนน ซึ่งมี ปตท. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ภาคเอกชน อาทิ บริษัทในกลุ่ม ปตท. บริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย จำกัด บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กลุ่มมิตรผล เป็นต้น และภาคประชาสังคม อาทิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธิ ร่วมกตัญญู และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นต้น เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการ “สร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนน” โดยเน้นให้องค์กรมีการพัฒนาระบบการบริหารจัดการความปลอดภัยในการเดินทางของหน่วยงาน บุคลากร และผู้รับจ้างขนส่ง สร้างความตระหนักและพัฒนาบุคลากรให้เกิดทักษะ แนวปฏิบัติด้านการขับขี่ปลอดภัย รวมทั้งส่งเสริมและถ่ายทอดให้กับสมาชิกครอบครัว เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันสู่สังคมรณรงค์และปลูกฝังจิตสำนึก เสริมสร้างพฤติกรรมด้านความปลอดภัยทางถนนให้กับบุคลากรภายในและต่อสังคม กำหนดมาตรการให้ปฏิบัติตามกฎหมาย และแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยเพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนร่วมผลักดันให้การบังคับใช้กฎหมายเพื่อความปลอดภัยทางถนนมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งสนับสนุนส่งเสริมให้องค์กรมียานพาหนะที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ต่อพ่วง และการบำรุงรักษาที่ดีเพื่อความปลอดภัย

นายวิทวัส สวัสดิ์-ชูโต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารความยั่งยืนและวิศวกรรมโครงการ หัวหน้าคณะทำงานย่อยประชารัฐเพื่อสังคม ด้านการสร้างความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า คณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคมด้านความปลอดภัยทางถนนพร้อมที่จะร่วมด้วยช่วยกันในการลดอุบัติเหตุอุบัติภัยบนท้องถนน สร้างวินัยและจิตสำนักรับผิดชอบในการใช้รถใช้ถนน ซึ่งเป็นที่มาของพิธีการในวันนี้ ที่ทุกภาคส่วนจึงมีความเห็นตรงกันในการให้คำมั่นสัญญาในบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ เพื่อแสดงถึงความร่วมมือขององค์กรทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการร่วมสร้าง “มาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนน” ที่จะประกอบไปด้วย การระดมสรรพกำลังยกระดับการบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนนภายในบ้านหรือองค์กรของตนเอง จนขยายผลไปสู่ครอบครัวและสังคม โดยเน้นไปที่ผู้บริหารทุกหน่วยงาน องค์กร จะต้องมีนโยบายเรื่องความปลอดภัยทางถนนในองค์กรอย่างจริงจัง ซึ่งหลังจากวันนี้ไปคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคมด้านความปลอดภัยทางถนน จะร่วมติดตามความคืบหน้าของความร่วมมือฉบับนี้กับหน่วยงานและองค์ต่างๆ ที่มาร่วมกันในวันนี้ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อแสดงความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทยร่วมกัน

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า บทบาทของ สสส. ทำหน้าที่ในการสนับสนุนข้อมูลวิชาการ บทเรียนจากความสำเร็จในการสร้างมาตรการองค์กรด้านความปลอดภัยทางถนน ที่ทำงานร่วมกับ สอจร. และภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ในการสนับสนุนให้บริษัทเอกชน หน่วยงานต่างๆ ได้มีการกำหนดมาตรการองค์กรด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อกำกับดูแลให้บุคลากรใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย อาทิ มาตรการหมวกกันน็อก 100% ดื่มไม่ขับ แก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงในพื้นที่ มีระบบการจัดการที่ดีขององค์กร และร่วมกันกำหนดมาตรการลงโทษหากมีการฝ่าฝืน ซึ่งที่ผ่านมา สสส. สนับสนุนและทำงานร่วมกับหน่วยงานเอกชนกว่า 300 องค์กรทั่วประเทศ เห็นความสำคัญ และร่วมกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยทางถนนในองค์กรของตนเอง ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดี เนื่องจากเป็นการกำหนดมาตรการร่วมกันระดับมหภาค โดยได้รับความร่วมมือจากองค์กรเอกชนระดับประเทศ อาทิ บ.บางจาก, การบินไทย กลุ่มเซ็นทรัล, กลุ่มมิตรผล ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ขยายมาตรการออกไปได้กว้างขวางยิ่งขึ้น เริ่มจากตนเอง ชุมชน ไปสู่การสร้างความปลอดภัยในสังคมโดยรวม

สำหรับบันทึกข้อตกลงการสนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือขององค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการประสานพลังเพื่อยกระดับการบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนน และ ร่วมปลูกฝังจิตสานึกด้านความปลอดภัยในการใช้ถนนภายในองค์กรของตนเอง และต่อสาธารณชน มีเป้าหมาย เพื่อลดสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างยั่งยืน โดยจะมีการดำเนินการ ดังนี้ 1. พัฒนาระบบการบริหารจัดการความปลอดภัยในการเดินทางของบุคลากร และด้านการขนส่งผลิตภัณฑ์ ทั้งของตนเองและผู้รับจ้างขนส่ง 2. สร้างความตระหนักและพัฒนาบุคลากรให้เกิดทักษะ แนวปฏิบัติด้านการขับขี่ปลอดภัย รวมทั้ง ส่งเสริมและถ่ายทอดให้กับสมาชิกครอบครัวเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันสู่สังคม

3. สนับสนุนการจัดกิจกรรมทางวิชาการ และกิจกรรมอื่นๆ รวมถึงการสื่อความและการประชาสัมพันธ์ เพื่อรณรงค์และปลูกฝังจิตสานึก เสริมสร้างพฤติกรรมด้านความปลอดภัยทางถนนให้กับบุคลากรภายในและต่อสังคม 4. กำหนดมาตรการให้ปฏิบัติตามกฎหมาย และแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยเพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนร่วมผลักดันให้การบังคับใช้กฎหมายเพื่อความปลอดภัยทางถนนมี ประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งเสนอแนะให้รัฐกำหนดบทลงโทษที่เหมาะสมต่อสภาพปัญหาในปัจจุบัน และ 5. สนับสนุนส่งเสริมให้มียานพาหนะที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ต่อพ่วง และการบำรุงรักษาที่ดีเพื่อความ ปลอดภัย ทั้งนี้ ทุกฝ่ายจะประสานความร่วมมือระหว่างกันเพื่อสนับสนุนการดำเนินการ พร้อมติดตามผลการ ดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลงนี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งภายในองค์กรของตนเองและต่อสาธารณชน

กำลังโหลดความคิดเห็น