พระนครศรีอยุธยา - เปิดเวทีสาธารณะฟังความคิดเห็นชาวอยุธยาเกี่ยวกับโครงการศึกษาและออกแบบกรอบรายละเอียดรถไฟทางคู่ขนาดทางมาตรฐานช่วงนครราชสีมา-แหลมฉบัง-มาบตาพุด ช่วงแก่งคอย-บ้านภาชี และอยุธยา-บางชื่อ เผยใช้งบฯ เกือบ 3 แสนล้านบาท เพิ่มศักยภาพการขนส่ง และมิติใหม่ของการคมนาคม พร้อมสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (21 ม.ค.) ที่โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับโครงการศึกษาและออกแบบกรอบรายละเอียดรถไฟทางคู่ขนาดทางมาตรฐาน ช่วงนครราชสีมา-แหลมฉบัง-มาบตาพุด และช่วงแก่งคอย-บ้านภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา-บางชื่อ
นายธวัช เบญจพลชัย ผู้จัดการโครงการรถไฟทางคู่ขนาดทางมาตรฐานฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของการรับฟังความคิดเห็นประชาชน และศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อรวบรวมข้อมูลรายงานให้แก่รัฐบาลพิจารณาภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่วนผลกระทบที่จะเกิดต่อประชาชนสองข้างทาง ภาครัฐเตรียมเยียวยาค่าชดเชยการเวนคืนตามระเบียบที่กำหนดไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จากการรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนพบว่า มีความพึงพอใจ
“ในส่วนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะมีการก่อสร้างสถานี ซึ่งเป็นสถานีสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วปานกลาง ผ่าน 5 อำเภอ ระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร โดยพื้นที่ก่อสร้างส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตทางรถไฟเดิม จึงคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก ทั้งนี้ เมื่อการดำเนินการทุกอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โครงการก่อสร้างครั้งนี้จะใช้งบประมาณเกือบ 3 แสนล้านบาท”
ด้านนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูง นอกจากจะรองรับการโดยสาร และการขนส่งสินค้าต่อไปในอนาคตแล้ว ยังส่งผลต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอย่างมาก ทั้งเรื่องการท่องเที่ยว การลงทุน และการสร้างงาน นอกจากนี้จะสามารถเชื่อมโยงไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน และต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มประเทศอาเซียนอีกด้วย