หวั่นอันตรายต่อช้างป่า! จนท.บุกตรวจแปลงหญ้าในป่าเต็งหลังพบนำยาแลนเนทผสมน้ำมาโรยใส่แปลงหญ้า

ประจวบคีรีขันธ์ - จนท.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมทหารชุดเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก ตำรวจพลร่ม กำนันป่าเด็ง เข้าตรวจสอบแปลงปลูกหญ้าเนเปียร์ข้างอ่างเก็บน้ำป่าแดง ในพื้นที่ตำบลป่าเต็ง อำเภอแก่งกระจาน เพชรบุรี หลังพบเจ้าของแปลงหญ้านำยาแลนเนทผสมน้ำมาโรยใส่แปลงหญ้าซึ่งเป็นเส้นทางช้างป่าเดิน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน พร้อมติดตามสังเกตพฤติกรรมช้างป่าทั้งป่าเด็ง และป่าละอู

วันนี้ (14 ม.ค.) นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่ประจำอยู่ที่หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านป่าแดง ว่า ได้ตรวจสอบพบบริเวณแปลงปลูกหญ้าเนเปียร์ ด้านหน้าริมอ่างเก็บน้ำบ้านป่าแดง ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นเส้นที่ช้างป่าลงมาที่อ่างเก็บน้ำบ้าป่าแดง และจะลงมาหาอาหารในบริเวณพื้นที่ข้างเคียง และหวั่นว่าช้างป่าหากเข้าไปกินหญ้าเนเปียร์ในแปลงดังกล่าวอาจได้รับอันตรายจากยาแลนเนทซึ่งเป็นยาฆ่าแมลง

เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จึงแจ้งต่อเจ้าของแปลงหญ้าให้หยุดใช้ยาแลนเนททันทีและให้เร่งสูบน้ำมาทำการฉีดทำความสะอาดบริเวณจุดที่มีการนำยาแลนเนทผสมน้ำโรยใส่ในแปลงหญ้า บริเวณเส้นทางช้างป่าจนดูแล้วว่าปลอดภัยสำหรับช้างป่าแล้ว

เวลาต่อมา นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ประสานไปยัง นายสหัส บุตรเล็ก กำนันตำบลป่าเด็ง ทหารชุดเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก ตำรวจพลร่ม ร่วมกันไปตรวจสอบบริเวณแปลงหญ้าเนเปียร์ดังกล่าวทันที

เบื้องต้น พบนายดำ พราหมมณี อายุ 59 ปี เจ้าของแปลงหญ้า และคนงานกำลังตัดหญ้าเนเปียร์อยู่ โดยมีห้างสำหรับเฝ้าช้างป่า และมีหญ้าเนเปียร์บางส่วนที่กำลังตัดส่งขายบางส่วน นอกจากนั้น ยังดูจุดที่เจ้าของแปลงหญ้าได้ให้คนงานราดยาแลนเนทลงไปที่ต้นหญ้าเนเปียร์ซึ่งขึ้นใหม่

นายดำ เจ้าของแปลงหญ้ากล่าวว่า ไม่ได้มีเจตนาที่ราดยาแลนเนทเพื่อทำร้ายสัตว์ป่าแต่อย่างใด แต่เนื่องจากที่ผ่านมา เกิดปัญหาแมลงลงมารบกวนกัดกินหญ้าเนเปียร์จนได้รับความเสียหาย โดยตนเองปลูกหญ้าเนเปียร์ตัดขายให้แก่ผู้ที่เลี้ยงวัวตันละ 1,600 บาท แต่เทื่อมีแมลงลงมากัดกินจึงต้องป้องกัน ซึ่งต้องการเพียงฆ่าแมลงเท่านั้น โดยใช้ยาแลนเนทผสมน้ำราดลงไปในต้นหญ้าเนเปียร์ที่ปลูกใหม่ จำนวน 3 ถุง และยืนยันว่าถึงแม้พื้นที่แปลงปลูกหญ้าของตนเองจะอยู่ติดใกล้อ่างเก็บน้ำป่าแดง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ช้างป่าลงมากินน้ำ และจะผ่านเข้ามายังแปลงหญ้าของตนเองก็ตาม แต่ก็มีคนงานเฝ้าอยู่ และเวลาช้างป่าลงมาก็จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้รับทราบเพื่อมาช่วยกันผลักดัน

“ยืนยันว่าเพิ่งราดยาแลนเนท และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก็มาเจอ และยังไม่มีช้างป่าเข้ามาแต่อย่างใด” นายดำ กล่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก และทหารชุดเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ จึงใช้จีพีเอสจับพิกัดพบว่า พื้นที่แปลงปลูกหญ้าดังกล่าวอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แต่อยู่ในเขตของป่าสงวนแห่งชาติ โดย นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อให้มาตรวจสอบแปลงหญ้าดังกล่าวอีกครั้ง และได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.แก่งกระจาน เอาไว้

นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ออกติดตามสังเกตโขลงช้างป่าในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง รวมทั้งพื้นที่อ่างเก็บน้ำป่าแดง อ่างเก็บน้ำกระหร่าง 3 อ่างเก็บน้ำในพื้นที่ป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า มีช้างป่าที่มีอาการผิดปกติหรือไม่เพื่อความไม่ประมาทถึง แม้ทางเจ้าของแปลงหญ้าจะยืนยันว่าตั้งแต่ใช้ยาแลนเนทผสมน้ำโรยแปลงหญ้าจะยังไม่พบมีช้างป่ามาลงมาในแปลงหญ้าก็ตาม แต่ก็เพื่อความไม่ประมาท รวมทั้งหน่วยทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก และทหารชุดเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ก็ได้กระจายกำลังออกติดตามพฤติกรรมของช้างป่าร่วมกับทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานด้วยเช่นกัน

ต่อมา นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้แจ้งเรื่องไปยังหน่วยงานฝ่ายปกครองของทั้งอำเภอแก่งกระจาน อบต.ป่าเด็ง อำเภอหัวหิน อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั้งป่าเด็ง ป่าละอู ตำรวจพลร่ม ตำรวจภูธรให้รับทราบ และมาประชุมชี้แจงให้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นที่ศูนย์ข้อมูลอนุรักษ์ช้างป่าละอู ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน โดยมี นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน ได้เดินทางมาร่วมประชุม และรับฟังถึงปัญหาที่เกิดขึ้นที่มีการนำยาแลนเนท ซึ่งเป็นยาฆ่าแมลงไปโรยในแปลงหญ้าหวังกำจัด

ทั้งนี้ นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน ได้แจ้งในที่ประชุมด้วยความเป็นห่วงว่า พื้นที่ไหนที่มีการปลูกหญ้าเพื่อให้วัวนั้น ขอให้เจ้าของไร่ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาฆ่าแมลงอย่างแลนเนท เพราะหากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และนำไปผสมน้ำหากช้างป่า หรือสัตว์ป่าเข้ามากินหญ้า อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าได้ และขอให้ร่วมกันเฝ้าระวังเรื่องของสถานการณ์ช้างป่า เนื่องจากในปีนี้เกิดภาวะแห้งแล้งในพื้นที่ป่าชั้นใน ทำให้ช้างป่าออกมาหากินภายนอก ครั้งนี้ถือว่าเป็นความโชคดีที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ไปพบก่อน และดำเนินการแก้ปัญหาทันที