ประจวบคีรีขันธ์ - สามีภรรยาขับรถบรรทุกกล้วยส่งตลาดกรุงเทพฯ เจอช้างป่าเดินบนถนนสายวไลย-ป่าละอู ตอนเช้ามืด หักหลบกระทันหัน รถพลิกคว่ำตกข้างทางได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ ด้านกำนัน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เรียกร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาช้างป่าแก่งกระจานบุกหมู่บ้าน จนทำให้พืชผลการเกษตรได้รับความเสียหาย
วันนี้ (15 พ.ค ) นายสวันต์ เกตุสิงห์ เจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพ องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ ได้รับแจ้งจากตำรวจพลร่วมประจำด่านตรวจพุไทรว่า มีผู้ขับขี่รถยนต์ประสบอุบัติเหตุ บริเวณถนนทางหลวงชนบท สายวไลย-ป่าละอู ห่างจากซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้านป่าละอู 2 กิโลเมตร หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ โดยพบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิซิ สีขาว หมายเลขทะเบียน บพ-458 เพชรบุรี สภาพพลิกคว่ำอยู่ริมถนน และมีคราบเลือดแต่ไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ
กระทั่งมีรถขายของวิ่งผ่านมาแจ้งว่าได้ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหัวหิน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นทราบชื่อผู้ขับขี่คือ นายสามารถ เจริญประสิทธิชัย อายุ25ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 6 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยได้รับบาดเจ็บศรีษะแตก ส่วนภรรยาที่นั่งมาด้วยนิ้วหัก
จากการสอบถามนายสามารถ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุตนและภรรยา ได้ขับรถกระบะบรรทุกกล้วยจากสวนไปส่งให้กับตลาดรับซื้อที่กรุงเทพฯ และเมื่อขับรถมาถึงทางเข้าหมู่บ้านป่าละอู ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเช้ามืดและมีหมอกลง แสงไฟหน้ารถได้กระทบกับช้างป่าที่กำลังเดินอยู่บนถนน จึงเกรงว่าจะพุ่งชนจึงพยายามหลักหลบจนถรพลิกคว่ำตกถนน หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์แจ้งไปยังตำรวจพลร่วมที่ด่านตรวจพุไทร กระทั่งมีรถแม่ค้าขายของขับผ่านมาจึงขอความช่วยเหลือจนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ทั้งนี้ถนนสายดังกล่าว มักมีช้างป่าออกมาเดินบนถนนบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากไฟโซล่าเซล์ลที่ติดตั้งบริเวณข้างทางมีน้อย จึงทำให้แสงสว่างไม่เพียงพอ และที่ผ่านมาชาวบ้านได้เรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยแก้ไขปัญหา เนื่องจากช้างจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มักออกมาเดินบนถนนแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ด้าน นายมนูญ ทองทองแย้ม กำนันตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ กล่าวว่าปัญหาช้างป่าแก่งกระจานที่มีไม่น้อยกว่า 100 ตัว และขณะนี้เริ่มออกมากินในพื้นที่บ้านป่าละอู กำลังสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเป็นอย่างมากเนื่องจากผลผลิตที่ปลูกไว้ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะทุเรียนป่าละอู และที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการเยียวยาและช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยเฉพาะกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแต่อย่างใด
“ ปัญหาช้างป่ายิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น กระทั่งมีการบุกเข้าถึงหมู่บ้าน รื้อข้าวจนได้รับความเสียหาย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีโครงการสางพืชข้างทางออก เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมองเห็นทัศนวิสัยได้ดีโดยเฉพาะสามารถมองเห็นช้างป่าที่กำลังเดินออกมาหากินได้ง่ายขึ้น แต่วันนี้เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้วที่ไม่มีการดำเนินการต่อเนื่อง
ส่วนปัญหาแสงสว่างโซล่าร์เซลล์สองข้างทางก็ติดบ้างไม่ติดบ้าง เป็นอันตรายสำหรับผู้ขับขี่ผ่านเส้นทางถนนเข้าหมู่บ้าน จึงฝากวอนหน่วยงานเกี่ยวข้องโดยเฉพาะกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช,อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี ให้ลงมาแก้ปัญหาอย่างจริงจัง” นายมนูญ กล่าว
ด้าน นายทองใบ เจริญดง ผู้ประสานงวานแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าแห่งประเทศไทย (WCS) กล่าวว่าขณะนี้มีรถยนต์นำผลไม้จำพวกขนุนมาทิ้งบริเวณถนนทางเข้าหมู่บ้านในช่วงกลางคืน ถือเป็นการชักนำให้ช้างป่าออกมาเดินบนถนนจึงอยากฝากเตือนไปยังผู้กระทำการเช่นนี้ให้หยุดการกระทำดังกล่าว