ประจวบคีรีขันธ์ - ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน บินสำรวจลุ่มน้ำเหนือเขื่อนปราณบุรี พบน้ำเริ่มไหลผ่านแม่น้ำปราณบุรี จากต้นน้ำในป่าแถบเทือกเขาตะนาวศรีชายแดนไทย-พม่า ที่ฝนตกหนักในช่วงนี้ มีน้ำเริ่มไหลผ่านแม่น้ำปราณบุรี ตามเส้นทางมาจากป่าละอู และบึงนครเข้าเขื่อนปราณบุรีต่อเนื่อง ทางเขื่อนปราณบุ รียืนยันยังรับน้ำได้อีกกว่า 200 ล้านลูกบาศก์เมตร
วันนี้ (2 พ.ย.) ที่ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายประสพ พรหมมา ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ ได้เดินทางมาติดตามการปฏิบัติงานฝนหลวง ที่มาตั้งฐานหน่วยบินฝนหลวงหัวหิน เพื่อเติมน้ำให้แก่ลุ่มน้ำปราณบุรี และลุ่มน้ำแก่งกระจาน พบว่า ช่วงนี้มีฝนตกในพื้นที่ป่าชายแดนไทย-พม่า บริเวณเทือกเขาตะนาวศรีมากเพิ่มขึ้น
ต่อมา นายประสพ พรหมมา ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ พร้อมนักบินนำเฮลิคอปเตอร์ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ขึ้นบินสำรวจบริเวณพื้นที่ต้นแม่น้ำแถบป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อติดตามสภาพลุ่มน้ำปราณบุรี หลังมีฝนตกลงมาหลายวันที่ผ่านมา
พบว่า ขณะนี้เริ่มมีน้ำไหลจากพื้นที่ต้นน้ำชั้นในเทือกเขาตะนาวศรี ชายแดนไทย-พม่า ที่มีฝนตกหนัก ทำให้น้ำเริ่มไหลลงสู่ทั้งบริเวณน้ำตกป่าละอูเป็นช่วง และไหลลงสู่แม่น้ำปราณบุรี ในพื้นที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ และ ต.บึงนคร ก่อนที่จะไหลลงสู่เขื่อนปราณบุรี
อย่างไรก็ตาม จากการบินสำรวจตลอดเส้นทางการไหลของน้ำตามแม่น้ำปราณบุรี พบว่า มีน้ำไหลมาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่เขื่อนปราณบุรี ซึ่งเป็นผลดี แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการปฏิบัติการฝนหลวงของหน่วยบินฝนหลวงหัวหิน หากพบมีสภาพ และความชื้นที่เหมาะสมก็จะขึ้นโปรยสารฝนหลวงไปจนกระทั่งจนสภาพอากาศจะไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากเขื่อนปราณบุรี ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ เพื่อให้มีน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งปีหน้าได้
นายมานะ เพิ่มพูน หน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่า สภาพน้ำตกป่าละอูวันนี้ระดับน้ำลดลงกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว น้ำใสขึ้น แต่สะพานไม้ที่ข้ามจากชั้นที่ 1 ไปยังชั้นอื่นนั้นขาด ถูกน้ำป่าซัดหายไปตั้งแต่วานนี้ และวันนี้ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมได้เฉพาะชั้นที่ 1 เท่านั้น แต่ไม่อนุญาตให้ข้ามไปน้ำตกชั้นอื่นๆ และยังอยู่ในการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะมีรายงานว่าอีก 2-3 วันนี้ จะยังมีฝนตกลงมาเพิ่มอีก และนักท่องเที่ยวต้องฟังคำเตือนของเจ้าหน้าที่โดยเคร่งครัด
ด้าน นายอุรัค สุบรรณเสรีย์ หัวหน้าโครงการเขื่อนปราณบุรี กล่าวว่า จากเดิมเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา น้ำในเขื่อนปราณบุรี อยู่ในขั้นวิกฤตมาก เนื่องจากเหลือน้ำใช้ได้เพียง 6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทำให้ต้องมีการบริหารจัดการน้ำด้านต่างๆ ทั้งภาพการเกษตรที่ต้องงด และส่งใช้ในการอุปโภคบริโภค ซึ่งต่อมา หน่วยบินฝนหลวงได้บินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือภัยแล้งเติมน้ำในเขื่อนปราณบุรีมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเริ่มมีฝนธรรมชาติตกลงมาทุกวันในช่วงนี้ ทำให้หลายวันที่ผ่านมา มีน้ำไหลเข้าเขื่อนปราณบุรีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ล่าสุด วันนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อนปราณบุรี จากเดิมที่ 6 เปอร์เซ็นต์เมื่อต้นเดือนตุลาคม แต่วันนี้เพิ่มเป็น 24 เปอร์เซ็นต์แล้ว หรือประมาณ 111 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับเขื่อนปราณบุรี ยังสามารถรับน้ำได้อีกกว่า 200 ล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้น จึงไม่น่าเป็นห่วงเหมือนทางจังหวัดเพชรบุรี” หัวหน้าโครงการเขื่อนปราณบุรี กล่าว