ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) แห่งประเทศไทย เตือนประชาชนชะลอความเร็วขณะขับรถผ่านเส้นทางเข้าบ้านป่าละอู ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน หลังพบฝูงลิงเสนออกมาหากินจำนวนมากทำให้ถูกรถชนตายไปแล้วนับ 10 ตัว พร้อมขอให้งดนำอาหารไปโยนให้ เพราะส่งผลกระทบทำให้ลิงเสนเปลี่ยนพฤติกรรม
วันนี้ (13 ก.ค.) นายอัครเดช ผดุงธิติสุนทร เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาหุบเต่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนายทองใบ เจริญดง ผู้ประสานงานโครงการอนุรักษ์และติดตามจัดการปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย และนายอภิชาติ หงษ์สกุล ประธานฝ่ายพัฒนาการท่องเที่ยวและสิงแวดล้อม สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ เข้าตรวจสอบซากลิงเสน หรือลิงหมี พบว่า เป็นเพศเมีย ซึ่งถูกรถชนตายอย่างอนาถ เป็นที่น่าสลดใจเนื่องจากเป็นลิงสาว บนถนนกรมทางหลวงชนบทสายหนองพลับ-ห้วยสัตว์ใหญ่ ทางเข้าหมู่บ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ช่วยกันฝังซากลิงเสนตัวดังกล่าว
นายอัครเดช ผดุงธิติสุนทร เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาหุบเต่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่า ในช่วงนี้มีฝูงลิงเสน รวมทั้งลูกลิงตัวเล็กๆ จำนวนมากได้พากันออกจากป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มาหากินบริเวณสองฝั่งริมถนนสายดังกล่าวมากขึ้น ช่วงนี้จะพบบ่อยทั้งช่วงเที่ยง และช่วงเย็น โดยส่วนใหญ่จะมานั่งรออาหารที่มักมีผู้ที่ขับรถสัญจรบนถนนสายนี้โยนให้เป็นประจำ ทำให้ลิงเสนเหล่านี้พากันเกิดความเคยชินจึงออกมารอ และมักข้ามถนนไปมาบางครั้งทำให้ถูกรถยนต์ที่มาด้วยความเร็วชนตาย
จากการรวบรวมสถิติของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) แห่งประเทศไทย พบว่า ลิงเสนถูกรถยนต์ชนตายแล้วอย่างน้อย 10 ตัว ซึ่งสาเหตุหนึ่งพบว่ามาจากผู้ที่ขับรถยนต์ผ่านเส้นทางดังกล่าวชอบนำผลไม้ และพืชผักต่างๆ มาโยนให้ ทำให้ลิงเสนเปลี่ยนพฤติกรรมออกจากป่ามารอรับอาหารบนถนนมากเพิ่มขึ้น และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากผู้ที่สัญจรไปมาขับรถยนต์ด้วยความเร็ว จึงชนลิงเสน ดังนั้น เจ้าหน้าที่ฯ จึงฝากเตือนประชาชนให้ชะลอความเร็วขณะขับรถผ่านเส้นทางเข้าบ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และขอให้งดนำอาหารไปโยนให้ เพราะส่งผลกระทบทำให้ลิงเสนเปลี่ยนพฤติกรรม
ทั้งนี้ ข้อมูลทางวิชาการ ระบุว่า ประชากรลิงเสนในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง โดยมีสถานะทางกฎหมายเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 แต่สำหรับพื้นที่บริเวณดังกล่าวกลับพบว่า มีลูกอ่อนลิงเสนเกิดใหม่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะสังเกตได้จากลูกลิงเสนตัวเล็กจะมีสีขาว และเมื่อเริ่มโตขึ้นสีจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล โดยลิงเสนมีลักษณะลำตัวยาว หลังสั้น ขนสีน้ำตาล หน้ากลม หางสั้น สิ่งสำคัญก้นจะแดง โดยลิงเสนจะผสมพันธุ์เมื่อมีอายุระหว่าง 3-4 ปี และจะต้องท้องนานถึง 146 วัน ออกลูกได้เพียงครั้งละ 1 ตัวเท่านั้น ลิงเสนจะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 20 ปี
นายอภิชาต หงษ์สกุล ประธานฝ่ายพัฒนาการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ กล่าวว่า เส้นทางดังกล่าวมักเกิดอุบัติเหตุระหว่างช้างป่ากับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ จนชาวบ้านเสียชีวิต และบาดเจ็บมาแล้วเมื่อหลายปีที่ผ่านมา สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากมีการนำผลไม้โยนให้ช้างป่าจนเกิดความเคยชิน จนเกิดปัญหา แต่มาระยะหลังเจ้าหน้าที่เริ่มเข้มงวดจึงไม่ค่อยพบการทิ้งผลไม้
อีกทั้งเส้นทางดังกล่าวมักมีช้างป่า และสัตว์ป่าชนิดอื่นออกมาเดินอยู่บนถนนเป็นประจำเนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แต่มาระยะหลังเริ่มมีผู้ที่สงสารลิงมักนำผลไม้มาโยนให้ฝูงลิงเสน ซึ่งก็ทำให้ปัญหาเกิดขึ้นอีก เพราะเมื่อถึงเวลาลิงเสนก็จะออกมารออาหาร สิ่งสำคัญทำให้เกิดรถชนลิงเสนตาย จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติก่งกระจาน จัดทำป้ายห้ามทิ้งอาหารบริเวณเส้นทางนี้เพิ่มเติม รวมทั้งป้ายชะลอความเร็ว เนื่องจากมีลิงเสนบริเวณจุดนี้ และดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายต่อผู้ที่ทิ้งก็จะลดความสูญเสียของลิงเสนลงได้ เพราะเชื่อว่าปัจจุบันลิงเสนนั้นไม่ได้อดอาหาร