ศูนย์ข่าวขอนแก่น - พ่อเมืองขอนแก่นเผยภายหลังประชุมบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำชี-น้ำพอง ห่วงสถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดขอนแก่นประสบภัยแล้งรุนแรงสุดในรอบ 20 ปี พร้อมประกาศเขตภัยพิบัติภาวะฝนแล้ง 16 อำเภอ วอนเกษตรกรงดปลูกข้าวนาปรัง ชาวประมงหยุดเลี้ยงปลาในกระชัง
วันนี้ (12 ม.ค. 59) นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ที่ประชุมร่วมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำในจังหวัดขอนแก่น และคณะกรรมการในจังหวัดลุ่มน้ำชี-น้ำพอง ครอบคลุมพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู, ขอนแก่น, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด โดยประเด็นหลักสำคัญได้หารือว่าด้วยน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นการบริหารจัดการและรองรับปริมาณน้ำในลำน้ำพอง และลำน้ำชี
จากการตรวจสอบปริมาณน้ำเก็บกักภายในเขื่อนอุบลรัตน์มีอยู่ที่ประมาณ 27% ของความจุอ่างเท่านั้น ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เพราะเป็นปริมาณน้ำกักเก็บในภาพรวมตลอดหน้าฝนปีนี้ และจากการตรวจสอบยังคงพบว่าปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ในจำนวนที่เกินกว่า 10 ล้าน ลบ.ม.เป็นบางวัน เป็นสัญญาณที่ไม่ดีเตือนว่าปีนี้เรามีน้ำที่น้อยมาก เทียบเท่ากับเมื่อปี 2536 จะทำให้ประสบปัญหาภัยแล้งแน่นอนในปี 2559 ส่งผลให้จังหวัดขอนแก่นประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปีเลยทีเดียว
ต้องบริหารจัดการน้ำให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2559 ขณะนี้โครงการชลประทานหนองหวายมีมาตรการช่วยข้าวนาปีให้สามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างไม่มีปัญหา ขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจะมีมาตรการขอความร่วมมือไปยังเกษตรกรงดทำนาปรังเด็ดขาด งดเลี้ยงปลาในกระชังเพื่อลดการเกิดน้ำเสีย ประสานการประปาขอข้อมูลความต้องการน้ำดิบเพื่อผลิตประปาให้มีน้ำเพียงพอใช้ตลอดทั้งปี
จังหวัดขอนแก่นประสบปัญหาภาวะฝนแล้งตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 2558 ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีฝนตกลงในพื้นที่ ส่งผลให้พื้นที่ประสบภัย 16 อำเภอ 105 ตำบล 1,005 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 9.46 ของหมู่บ้านทั้งจังหวัด (2,331 หมู่บน) ประกอบด้วย อ.พระยืน, สีชมพู, แวงใหญ่, บ้านแฮด, เวียงเก่า, ชนบท, ชุมแพ, บ้านฝาง, มัญจาคีรี, หนองนาคำ, ภูเวียง, หนองสองห้อง, เมืองขอนแก่น และ อ.เปือยน้อย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 53,479 ครัวเรือน 27,854 คน คิดเป็นร้อยละ 9.46 ของครัวเรือนทั้งจังหวัด
ส่วนความเสียหายพื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหายที่เป็นนาข้าว 478,377 ไร่ และจังหวัดขอนแก่นได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภาวะฝนแล้ง) จำนวน 16 อำเภอ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2558 ที่ผ่านมา
ขณะนี้ได้ประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งในส่วนของ อบจ., เทศบาล, และ อบต. ให้เริ่มสูบน้ำเพื่อกักเก็บไว้ในหนองน้ำสาธารณะเพื่อให้มีน้ำใช้เพียงพอ หรือเก็บให้ได้มากที่สุด โดยสูบจากลำน้ำชี และลำน้ำพองเป็นหลัก จากนั้นจะประกาศห้ามสูบน้ำจากทุกแห่งเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนของการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ รวมทั้งสั่งห้ามไม่ให้สนับสนุนค่าเชื้อเพลิงสูบน้ำเพื่อการเกษตรด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทุกหน่วยได้เตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือทั้งระบบ โดยเฉพาะการจัดหาอาชีพเสริมให้แก่ผู้ประสบภัยแล้งด้วย