ยะลา - หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบริหารจัดการน้ำภายในเขื่อนบางลาง จ.ยะลา หลังพบว่าปริมาณน้ำลดลงเหลือเพียงร้อยละ 40 ของความจุอ่าง เพื่อเตรียมรับมือแก้ปัญหาวิกฤตภัยแล้งในพื้นที่
วันนี้ (15 ส.ค) ที่ห้องประชุมเขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายนฤพล แหละตี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายคติ ชนนีบำรุง หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง นายอนุรักษ์ ธีระโชติ ผอ.โครงการชลประทานยะลา นายฉลอง เกียรติศักดิ์โสภณ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนปัตตานี ได้ร่วมกันแถลงข่าว พร้อมชี้แจงแนวทางการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนบางลาง เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตภัยแล้งในปี 2557 ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ปีนี้ปัญหาภัยแล้งนับว่าเป็นปีที่หนักที่สุดในรอบ 33 ปี ของจังหวัดยะลา นับตั้งแต่ได้มีการก่อสร้างเขื่อนบางลาง เมื่อ พ.ศ.2524 เพื่อนำน้ำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร จนส่งผลให้การทำนา หรือปลูกพืชของเกษตรกรในหลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะการปลูกข้างนาปรัง และข้าวนาปี ในฤดูกาลผลิตปี 2557/2558 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ขณะนี้ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนปัตตานี ได้ขอให้เกษตรกรชะลอการทำนาปีออกไปหากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาไม่เพียงพอ
ทางด้าน นายคติ ชนนีบำรุง หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง กล่าวว่า จากการตรวจสอบสถานการณ์ระดับน้ำในเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ในปัจจุบัน พบว่า ขณะนี้ เขื่อนบางลาง กำลังได้รับผลกระทบเรื่องปัญหาปริมาณน้ำที่มีน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเขื่อนบางลาง จ.ยะลา สามารถจะรองรับปริมาณน้ำได้ถึง 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี แต่ตามรายงานล่าสุด เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2557 ปริมาณน้ำในเขื่อนบาง มีเพียง 500 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร หรือเพียงร้อยละ 40 ของประมาณน้ำที่รับได้ หากว่าในเดือนสิงหาคมนี้ ปริมาณน้ำยังไม่ไหลเข้าเขื่อนตามที่คาดการณ์ไว้ ก็จะทำให้พื้นที่เกิดวิกฤตปัญหาภัยแล้งได้ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นมาจากสถานการณ์เอลนีโญ่ หรือภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วประเทศในขณะนี้ ทางเขื่อนบางลาง ได้ประสานไปยังชลประทานในพื้นที่ ทั้งที่ จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ปัตตานี ซึ่งได้มีการทำเรื่องขอให้มีการระบายน้ำปริมาณ 4 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
เพราะขณะนี้ เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ต้องการน้ำไปทำนาปรัง แต่ทางเขื่อนบางลาง สามารถปล่อยน้ำได้เพียง 2 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันเท่านั้น หากตลอดเดือนสิงหาคมนี้ ยังไม่มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนตามที่ได้คาดการณ์ไว้ ก็จะส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาวิกฤตน้ำในพื้นที่ได้ และหากระดับน้ำในเขื่อนบางลางลดต่ำกว่า 300 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็จะไม่สามารถส่งน้ำไปผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับในบางพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้
ทางด้าน นายมงคล สังข์ศร หัวหน้ากลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านดอนรัก จ. ปัตตานี กล่าวว่า จากการได้รับฟังแนวทางการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนบางลาง และชลประทาน ก็เป็นที่พอใจในการบริหารจัดการ แต่อย่างไรก็ตาม ในปีนี้นับว่าเป็นปีแรกที่กลุ่มเกษตรกรต้องประสบต่อปัญหาการใช้น้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งในขณะนี้การทำข้างนาปรับของกลุ่มเกษตรกรทั้ง 5 กลุ่ม ใน จ. ปัตตานี ก็ได้ดำเนินการไปแล้ว หากน้ำไม่เพียงพอก็จะส่งผลกระทบต่อการผลิตข้าวอย่างแน่นนอน