บุรีรัมย์ - ประชาชนชาวไทย-กัมพูชาแห่ซื้ออาหารเครื่องดื่มที่ตลาดชายแดน “ช่องสายตะกู” อ.บ้านกรวด บุรีรัมย์ สุดคึกคัก เพื่อนำไปประกอบอาหารและดื่มเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ สร้างรายได้ให้แม่ค้ายอดขายทะลักวันละ 3-4 พันบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัว ขณะ จนท.ผสานกำลังตรวจเข้มป้องกันยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายทะลักเข้าฝั่งไทย
วันนี้ (31 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนทั้งชาวไทยและกัมพูชา แห่ข้ามฝั่งซื้ออาหาร-เครื่องดื่ม ที่บริเวณจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์อย่างคึกคัก เพื่อนำไปประกอบอาหารและดื่มเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2559 โดยประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ข้ามแดนเข้าไปซื้อเหล้า เบียร์ และเครื่องดื่มชนิดต่างๆ เพื่อนำไปดื่มเฉลิมฉลองสังสรรค์กับครอบครัว ญาติพี่น้อง เนื่องจากมีราคาถูกกว่าฝั่งไทย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ติดประกาศประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเงื่อนไขปริมาณการซื้อจำพวกเหล้า เบียร์ บุหรี่ ไว้บริเวณประตูเข้าออกด้วย หากใครซื้อเกินปริมาณที่กำหนดจะถูกจับปรับและดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนประชาชนชาวกัมพูชาส่วนมากจะเลือกซื้อจำพวกพืชผัก ผลไม้ และอาหารสด ไปกักตุนไว้ประกอบอาหารเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ของประเทศกัมพูชาคึกคักเช่นเดียวกัน โดยช่วงนี้มีประชาชนทั้งไทยและกัมพูชาข้ามฝั่งมาเลือกซื้อสินค้าวันละ 2,000-3,000 คน จากปกติมีเพียงวันละ 400-500 คนเท่านั้น ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้ามีรายได้เพิ่มขึ้น
นางสมใจ หนูประโคน แม่ค้าขายผลไม้ฝั่งไทยรายหนึ่งบอกว่า ช่วงนี้มีประชาชนฝั่งกัมพูชาข้ามมาซื้อสินค้าฝั่งไทยคึกคัก โดยเฉพาะพืชผัก ผลไม้ และอาหารสดจะขายดีเป็นพิเศษ ทำให้มีรายได้เฉลี่ยวันละ 3,000-4,000 บาท จากปกติจะขายได้เพียงวันละ 1,000-2,000 บาทเท่านั้น และคาดว่าจะขายดีจนสิ้นสุดเทศกาล
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ทำการตรวจตราทั้งบุคคลที่ผ่านเข้าออก และสิ่งของอย่างเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสลักลอบซุกซ่อนยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่อย่างเข้มงวดด้วย แต่ขณะนี้ก็ยังไม่พบผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดแต่อย่างใด มีเพียงประชาชนบางรายที่ซื้อสินค้าประเภทเหล้า บุหรี่ เกินจำนวนที่ทางสรรพสามิตกำหนดให้สามารถซื้อได้ก็ถูกจับปรับตามกฎหมาย