สาวเมืองลี้ครวญใช้ครีมยี่ห้อดัง-ทาแล้วหน้าพังถึงขั้นเสียโฉม

ลำพูน - สาวเมืองลี้ วัย 24 ปี ซื้อครีมรองพื้นยี่ห้อดังมาทาแค่ 3 ตลับ หน้าพังเสียโฉม ต้องลาออกจากงานเพราะอายเพื่อนมานั่งจักตอกขายที่บ้าน ไม่มีเงินรักษา ไปคลินิกต้องจ่ายครั้งละพันกว่าบาท สุดท้ายต้องปล่อยเลยตามเลย ด้าน สสจ.เตือนคนอยากสวย หากแพ้เครื่องสำอางต้องหยุดใช้ทันที อย่าฝืน

วันนี้ (30 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านสันวิไล ต.แม่ตื่น อ.ลี้ จ.ลำพูน ว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งใช้ครีมรองพื้นยี่ห้อดังแล้วเกิดแพ้ทำให้หน้าพังเสียโฉม จนต้องออกจากงานมาอยู่บ้าน ทั้งยังมีฐานะยากจนไม่มีเงินรักษา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนางสาววิไลพร มณีวรรณ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ที่ 9 ต.แม่ตื่น อ.ลี้ จ.ลำพูน ซึ่งมีสภาพหน้าตาเสียโฉมจริงตามที่ได้รับแจ้ง

นางสาววิไลพรกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยสายตาที่เศร้าสร้อยว่า เดิมทีตนทำงานเป็นพนักงานในบริษัทแห่งหนึ่งย่านนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือลำพูน ด้วยความที่เป็นผู้หญิงรักสวยรักงามเหมือนคนอื่นๆ ก็สรรหาครีมเสริมสวยต่างๆ มาใช้

เมื่อต้นปี 2558 ได้ไปซื้อครีมรองพื้นก่อนแต่งหน้ายี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่งที่ตลาดในตัว อ.ลี้ ตลับละ 100 กว่าบาท ก็ใช้ไปเรื่อยๆ บางวันก็ทา บางวันก็ไม่ทา ใช้จนหมดตลับแรกก็ไม่มีปัญหาอะไร

แต่พอซื้อตลับที่สองมาใช้ก็เริ่มมีอาการผิวหน้าตึงๆ คันบริเวณใบหน้านิดๆ ตนก็ไม่ได้คิดอะไร ต่อมาใช้ตลับที่สาม ทีนี้หน้าเริ่มมีผื่นขึ้น และมีอาการตึงบริเวณใบหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ ผิวหน้าแดง จากนั้นก็เกิดแผลพุพอง มีหนองเต็มใบหน้าตนจึงหยุดใช้ แล้วก็กินยาแก้อักเสบ แต่ก็ไม่หาย และด้วยสภาพที่เป็นอยู่ก็อายเพื่อนๆ จึงต้องลาออกจากงานมาอยู่บ้าน ยึดอาชีพจักตอกขาย แต่ก็มีรายได้ไม่เพียงพอ หน้าก็ยังเป็นแผลรักษาไม่หาย

“เคยไม่หาหมอที่คลินิกในตัวเมืองลำพูนมาครั้งหนึ่ง แต่ค่าใช้จ่ายสูงถึงครั้งละ 1,300 บาท ฉันไม่มีเงินพอ ประกอบกับฐานะยากจน จึงไม่ไปหาหมออีกเลย ต้องปล่อยให้เลยตามเลย จนมีสภาพใบหน้าอย่างที่เห็นนี้ อยากวิงวอนผู้ใจบุญช่วยฉันในการรักษาใบหน้าให้กลับมาเหมือนเดิม” นางสาววิไลพรกล่าว

ด้านนายแพทย์ ปัจจุบัน เหมหงษา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หากใครแพ้เครื่องสำอาง หรือรู้ตัวว่าแพ้ให้หยุดใช้ทันที เพราะผิวหน้าของแต่ละคนอาจจะแพ้ไม่เหมือนกัน

ครีมแต่ละตัวมีส่วนผสมของสารเคมี ส่วนมากก็ผ่านขั้นตอนกระบวนการผลิตที่ปลอดภัยมาระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่แพ้ อยู่ที่ผิวของแต่ละคน บางคนแพ้สารกันแดด บางคนแพ้สารน้ำหอม หรือผลิตมาดี แต่ขั้นตอนการเก็บรักษาไม่ได้มาตรฐาน หรือมีเชื้อโรคปนเปื้อนขณะใช้ก็มีโอกาสแพ้ได้

“ผมขอแนะนำให้น้องที่แพ้เครื่องสำอางให้รีบไปรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง โดยเสียค่าใช้จ่ายตามสิทธิบัตรทองที่มี และหากประสงค์จะร้องเรียนก็ให้ติดต่อร้องเรียนได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน ทางเรามีเจ้าหน้าที่คอยรับเรื่องดำเนินการให้ในด้านต่างๆ ตามความประสงค์ของผู้เดือดร้อน” นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูนกล่าว