“อีซีเอ็มไอ” เผยภาพรวมธุรกิจความงามโลกปี 2017 คาดมูลค่า 2.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับตลาดความงามไทยโต 3% ต่อปี คาดปี 2017 มูลค่าสูงกว่า 2 หมื่นล้านบาท
นายซี พี ซอว์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีซีเอ็มไอ ไอทีอี (ประเทศมาเลเซีย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจความงามโลกในปี 2011 เครื่องสำอางระดับพรีเมียมมีอัตราการเติบโตมากกว่าเครื่องสำอางสำหรับตลาดทั่วไปในประเทศแถบยุโรปตะวันตก อเมริกาเหนือ และเอเชีย แปซิฟิก เฉลี่ย 4.7%
นอกจากนี้ยังมีความต้องการวัตถุดิบเพื่อความงามจากเอเชีย แปซิฟิกเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มูลค่าค้าปลีกขยับเพิ่มขึ้นมากถึง 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าธุรกิจความงามโลกในปี 2017 จะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 2.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐตามการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 3.4% ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยอุตสาหกรรมสินค้าเพอร์ซันนัลแคร์จะมีมูลค่าสูงถึง 6.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.87 แสนล้านยูโร ธุรกิจสินค้าสกินแคร์จะสามารถเติบโตเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในปี 2017 ขณะที่ธุรกิจแฮร์แคร์จะเติบโตเป็นอันดับสอง เนื่องจากมีสินค้าหลายชนิดรวมอยู่ในธุรกิจนี้ เช่น มอยซ์เจอไรซิ่งครีม ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด , ยาย้อมผมที่สามารถสร้างประกายสีได้หลายสีเพิ่มมากขึ้น
สำหรับตลาดสินค้าสกินแคร์ในประเทศไทยปัจจุบันมูลค่าอยู่ที่ 1.75 หมื่นล้านบาท คาดจะสามารถเติบโตเฉลี่ย 3% ต่อปี หรือเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 2 หมื่นล้านบาทในปี 2017 โดยสินค้าสำหรับดูแลผิวหน้าและผิวกายจะได้รับความนิยมสูงสุด ขณะที่ปัจจุบันตลาดสินค้าเพื่อกำจัดขนบนร่างกายมีอัตราการเติบโตสูงสุดเฉลี่ย 4% ต่อปี
ทั้งนี้ Euromonitor International Data ปี 2012 รายงานว่า ตลาดสินค้าเครื่องสำอางไทยมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสินค้าเพื่อการดูแลการแต่งกายของผู้ชาย เครื่องสำอางแบบสีสัน และน้ำหอม ซึ่งเป็นผลมาจากทัศนคติที่เปลี่ยนไปของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีภาพลักษณ์ที่ดูดีขึ้น ส่งผลให้เกิดการเปิดตัวคลินิกความงามแห่งใหม่อย่างแพร่หลาย
“ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 17 ในการผลิตเครื่องสำอางของโลก อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ย 10-20% ต่อปี มูลค่าการส่งออกเครื่องสำอางเพื่อการแต่งหน้าคิดเป็น 1.28% ของมูลค่าการส่งออกโลก อีกทั้งมีการพัฒนาเทคโนโลยีและส่วนผสมเครื่องสำอางอย่างมากในเอเชีย ต่อจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
“เฉพาะในปี 2011 อุตสาหกรรมเครื่องสำอางของไทยมียอดขายประมาณ 5 หมื่นล้านบาทหรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านยูโร และยอดส่งออกประมาณ 6.5 พันล้านบาท หรือ 200 ล้านยูโร” นายซี พี ซอว์ กล่าว
อนึ่ง บริษัท อีซีเอ็มไอ ไอทีอี (ประเทศมาเลเซีย) จำกัด ในเครือไอทีอี กรุ๊ป จะจัดงาน “คอสโมบิวตี้ ไทยแลนด์ 2014” (Cosmobeaute Thailand 2014) ระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นายซี พี ซอว์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีซีเอ็มไอ ไอทีอี (ประเทศมาเลเซีย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจความงามโลกในปี 2011 เครื่องสำอางระดับพรีเมียมมีอัตราการเติบโตมากกว่าเครื่องสำอางสำหรับตลาดทั่วไปในประเทศแถบยุโรปตะวันตก อเมริกาเหนือ และเอเชีย แปซิฟิก เฉลี่ย 4.7%
นอกจากนี้ยังมีความต้องการวัตถุดิบเพื่อความงามจากเอเชีย แปซิฟิกเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มูลค่าค้าปลีกขยับเพิ่มขึ้นมากถึง 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าธุรกิจความงามโลกในปี 2017 จะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 2.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐตามการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 3.4% ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยอุตสาหกรรมสินค้าเพอร์ซันนัลแคร์จะมีมูลค่าสูงถึง 6.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.87 แสนล้านยูโร ธุรกิจสินค้าสกินแคร์จะสามารถเติบโตเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในปี 2017 ขณะที่ธุรกิจแฮร์แคร์จะเติบโตเป็นอันดับสอง เนื่องจากมีสินค้าหลายชนิดรวมอยู่ในธุรกิจนี้ เช่น มอยซ์เจอไรซิ่งครีม ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด , ยาย้อมผมที่สามารถสร้างประกายสีได้หลายสีเพิ่มมากขึ้น
สำหรับตลาดสินค้าสกินแคร์ในประเทศไทยปัจจุบันมูลค่าอยู่ที่ 1.75 หมื่นล้านบาท คาดจะสามารถเติบโตเฉลี่ย 3% ต่อปี หรือเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 2 หมื่นล้านบาทในปี 2017 โดยสินค้าสำหรับดูแลผิวหน้าและผิวกายจะได้รับความนิยมสูงสุด ขณะที่ปัจจุบันตลาดสินค้าเพื่อกำจัดขนบนร่างกายมีอัตราการเติบโตสูงสุดเฉลี่ย 4% ต่อปี
ทั้งนี้ Euromonitor International Data ปี 2012 รายงานว่า ตลาดสินค้าเครื่องสำอางไทยมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสินค้าเพื่อการดูแลการแต่งกายของผู้ชาย เครื่องสำอางแบบสีสัน และน้ำหอม ซึ่งเป็นผลมาจากทัศนคติที่เปลี่ยนไปของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีภาพลักษณ์ที่ดูดีขึ้น ส่งผลให้เกิดการเปิดตัวคลินิกความงามแห่งใหม่อย่างแพร่หลาย
“ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 17 ในการผลิตเครื่องสำอางของโลก อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ย 10-20% ต่อปี มูลค่าการส่งออกเครื่องสำอางเพื่อการแต่งหน้าคิดเป็น 1.28% ของมูลค่าการส่งออกโลก อีกทั้งมีการพัฒนาเทคโนโลยีและส่วนผสมเครื่องสำอางอย่างมากในเอเชีย ต่อจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
“เฉพาะในปี 2011 อุตสาหกรรมเครื่องสำอางของไทยมียอดขายประมาณ 5 หมื่นล้านบาทหรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านยูโร และยอดส่งออกประมาณ 6.5 พันล้านบาท หรือ 200 ล้านยูโร” นายซี พี ซอว์ กล่าว
อนึ่ง บริษัท อีซีเอ็มไอ ไอทีอี (ประเทศมาเลเซีย) จำกัด ในเครือไอทีอี กรุ๊ป จะจัดงาน “คอสโมบิวตี้ ไทยแลนด์ 2014” (Cosmobeaute Thailand 2014) ระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์