xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรบุรีรัมย์พลิกวิกฤตหันปลูกผักพื้นบ้านใช้น้ำน้อยขายหน้าแล้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บุรีรัมย์ - เกษตรกรจังหวัดบุรีรัมย์ พลิกวิกฤตหันมาปลูกผักพื้นบ้านใช้น้ำน้อยปลอดสารตามริมรั้วและพื้นที่ว่างรอบบ้าน โดยใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพจากเศษอาหารขายในช่วงหน้าแล้งหลังชลประทานงดปล่อยน้ำทำนาปรัง

วันนี้ (20 ธ.ค.58) เกษตรกรบ้านม่วงใต้ ม.7 ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลายครัวเรือนได้พลิกวิกฤตหันมาปลูกผักพื้นบ้านปลอดสารพิเศษ อาทิ ชะอมตำลึง ขิง ตะไคร้ ผักหวานและพืชผักสวนครัวอื่นๆอีกหลายชนิดซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยตามริมรั้วและพื้นที่ว่างในครัวเรือน

โดยใช้น้ำจากสระหรือบ่อดินที่ขุดขึ้นเองและบางรายลงทุนขุดเจาะบ่อบาดาล และใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพที่ทำขึ้นเองจากเศษอาหารเหลือ และกากน้ำตาล ส่งขายตามตลาดและร้านอาหารเป็นรายได้เสริมช่วงหน้าแล้ง หลังจากทางโครงการชลประทานได้งดปล่อยน้ำให้เกษตรกรในเขตบริการทำนาปรัง
เนื่องจากเกรงน้ำดิบจะไม่เพียงพอผลิตประปาไว้ใช้สำหรับอุปโภคบริโภค ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่ปลูกผักขายเฉลี่ยวันละ 1,000 -1,500 บาท

นายสนิท เอการัมย์ อายุ 53 ปี เกษตรกรบ้านม่วงใต้ เผยว่า
ขณะนี้ได้มีเกษตรกรในหมู่บ้านหันมาปลูกผักพื้นบ้าน และผักสวนครัว
ส่งขายเพื่อหารายได้เสริมช่วงหน้าแล้งแล้วเกือบ 50 หลังคาเรือน
หลังจากที่ทางชลประทานได้งดปล่อยน้ำให้ทำนาปรังมาต่อเนื่อง 3 ปีแล้ว ทำให้เกษตรกรต้องขาดโอกาส จึงได้หันมาปรับเปลี่ยนปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทน จนปัจจุบันผักที่ปลูกในหมู่บ้านเป็นที่ต้องการของตลาด จนบางช่วงเก็บผลผลิตขายไม่ทัน

ด้านนางดอน บูชารัมย์ อายุ 63 ปี เกษตรกรอีกราย บอกว่า หลังจากทางชลประทานได้งดปล่อยน้ำให้ทำนาปรังมา 3 ปีแล้ว ก็ต้องหันมาปลูกพืชผักใช้น้ำน้อยแทน เพื่อหารายได้เสริมเลี้ยงครอบครัว

อย่างไรก็ตามก็อยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาสนับสนุนเรื่องเมล็ดพันธุ์ เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกรในอีกทางหนึ่งด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น