ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ถกร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับมาตรการป้องกันแก้ไขการขาดแคลนน้ำ ปี 59 ระบุเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องระวังอย่างใกล้ชิด ด้านตัวแทนประปาพัทยาระบุพายุ “หว่ามก๋อ” หนุนน้ำเติมลงอ่างเกินเป้า พร้อมเผยโครงการผันน้ำจากระยองเพิ่มใกล้แล้วเสร็จ มั่นใจพัทยาไร้ปัญหา
วันนี้ (10 ธ.ค.) ที่โรงแรมแกรนด์โซเลย์ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา จัดประชุมคณะกรรมการบริหารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมชลประทาน บริษัทบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก “อีสท์วอเตอร์” และสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคเมืองพัทยา เพื่อร่วมหารือเกี่ยวกับแผนและมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในปี 2559 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรับฟังรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำดิบในพื้นที่ภาคตะวันออก สภาพปัญหา และการเตรียมความพร้อมรองรับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ด้าน นายสุทัศน์ นุชปาน ผู้จัดการสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคพัทยา กล่าวว่า สำหรับเมืองพัทยาใช้น้ำดิบในการผลิตน้ำประปาจากอ่างเก็บน้ำซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บ จำนวน 5 อ่าง ได้แก่ มาบประชัน ชากนอก ห้วยขุนจิต ห้วยสะพาน และหนองกลางดง ซึ่งทั้ง 5 อ่างมีความจุรวม 39.92 ล้าน ลบ.ม.โดยในปีที่ผ่านมา พบว่าสถานการณ์น้ำค่อนข้างวิกฤตเนื่องจากมีปริมาณเหลืออยู่เพียง 19 ล้าน ลบ.ม.ทำให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ขณะที่ในปี 2558 นี้พบว่า ในช่วงต้นปีก็ถือว่ามีปัญหาเช่นกัน แต่หลังจากที่สถานการณ์พายุ “หว่ามก๋อ” พัดโหมกระหน่ำเข้าสู่พื้นที่เมืองพัทยา และใกล้เคียง ก็ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวมอยู่ที่ 30.9 ล้าน ลบ.ม. หรือ 77% ของความจุ ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับการใช้ไปได้จนถึงปีหน้า
นายสุทัศน์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่เมืองพัทยานั้นถือว่ามีอัตราการใช้น้ำสิ้นเปลืองแบบก้าวกระโดด ซึ่งไม่สอดคล้องต่อปริมาณน้ำดิบที่กักเก็บ โดยปริมาตรความจุรวมของน้ำที่ใช้อยู่นั้นมีปริมาณรวมอยู่ที่ 40 ล้าน ลบ.ม. แต่การใช้น้ำกลับมีปริมาณสูงถึงปีละ 70 ล้าน ลบ.ม.ด้วยเหตุนี้การประปาพัทยา จึงต้องหาน้ำดิบจากแหล่งอื่นมาเสริม เช่น การซื้อน้ำจากอีสท์วอเตอร์ ซึ่งผันน้ำมาจากจังหวัดระยอง ในสัดส่วน 30% ของการใช้ และการซื้อน้ำเพิ่มจากสำนักงานการประปาสัตหีบ
นอกจากนี้ ยังต้องสรรหาแหล่งน้ำเพิ่มเติมเพื่อสูบมาเติมในอ่างกักเก็บอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากอ่างเก็บน้ำมาบหวายโสม ในพื้นที่ตำบลเขาไม้แก้ว คลองห้วยใหญ่ หรืออ่างบางพระ ที่ผันน้ำมาจากหลายแหล่ง ทั้งลุ่มน้ำบางปะกง คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต เป็นต้น
สำหรับปัญหาการใช้น้ำในพื้นที่เมืองพัทยาถือว่ามีความจำเป็นต้องมีการเตรียมแผนการรองรับการใช้น้ำที่ขยายตัว และเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบัน ทางการประปาพัทยาได้ทำ MOU ร่วมกับกรมชลประทาน ในการจัดทำโครงการวางท่อขนาด 900 มม. เพื่อผันน้ำดิบมาจากอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งผันน้ำมาเป็นช่วงๆ จากอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ และอ่างเก็บน้ำประแสร์ ของจังหวัดจันทบุรี ที่จะส่งน้ำเข้าสู่ระบบการผลิตของประปาพัทยาในปริมาณ 40 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี
ซึ่งกรณีนี้จะทำให้ปริมาณน้ำเพียงพอต่อความต้องการ และปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบจะหมดไปอย่างแน่นอน ที่สำคัญโครงการนี้ได้มีการเร่งรัดการดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนมีความคืบหน้าไปมาก และจะสามารถผันน้ำได้ภายในช่วงต้นปี 2559