เชียงราย - ชาวเมืองเทิงรุมต้านนายทุนจ่อผุดโรงไฟฟ้าขยะริมน้ำอิง สุดตัว ขึ้นป้ายทั่วทุกหมู่บ้านไม่พอ รวมตัวถือป้ายคัดค้านเข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็น ยืนยันไม่เอาอย่างเดียว จนบริษัทเอกชนต้องประกาศถอย ยุติแผนลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าขยะ 350 ล้านบาท
วันนี้ (8 ธ.ค.) นายอภิรศักดิ์ พฤกษชาติ นายอำเภอเทิง จ.เชียงราย ได้เป็นประธานเปิดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อการดำเนินโครงการและมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมแปลงขยะให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ที่ฝ่ายปกครอง และบริษัทตรัง เฟรนลี่ เอเนอร์ยี่ จำกัด จัดขึ้น ณ วัดช้างค้ำ หมู่บ้านร่องแช่ ม.4 ต.เวียง อ.เทิง โดยมีชาวบ้านเข้าร่วมประมาณ 500 คน
บรรยากาศการรับฟังความคิดเห็นเป็นไปอย่างเคร่งเครียด เนื่องจากชาวบ้านได้มีการรณรงค์ต่อต้านโครงการโรงไฟฟ้าขยะที่จะสร้างขึ้นในพื้นที่บ้านใหม่ริมอิง หมู่ 18 ต.เวียง อ.เทิง เขตติดต่อกับพะเยา มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการขึ้นป้ายต่อต้านตามจุดต่างๆ ภายใน 4 หมู่บ้านคือ ม.4 ม.13 ม.16 และ ม.18 ต.เวียง อ.เทิง เช่น คัดค้าน-เราไม่เอาขยะเข้าบ้าน,ค้านค้านโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ ฯลฯ
ระหว่างการประชุมชาวบ้านต่างถือป้ายต่อต้านกันเต็มพื้นที่ โดยแทบไม่มีฝ่ายสนับสนุนทำให้นายอภิรศักดิ์เดินทางไปเปิดการประชุมเพียงชั่วครู่ก็เดินทางกลับทันที
จากนั้นเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ได้ชี้แจงข้อมูลต่อที่ประชุม แต่ชาวบ้านได้แสดงความเห็นว่าไม่ต้องการรับฟังข้อมูลใดๆ และไม่ต้องการให้ดำเนินโครงการในพื้นที่ที่ทางบริษัทได้กำหนดไว้ ซึ่งมีการให้ข้อมูลว่าจะก่อสร้างริมฝั่งแม่น้ำอิงตรงบ้านใหม่ริมอิง เนื้อที่ประมาณ 79 ไร่ ใช้งบประมาณ 350 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 18 เดือน ผลิตกระแสไฟฟ้าส่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 3.5 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ชาวบ้านยังต้องการทราบความเป็นมาของการขออนุญาตจัดตั้งโครงการ ซึ่งมีเอกสารที่ระบุถึงการประชุมอย่างน้อย 2 ครั้ง โดยอ้างอิงการประชุมต่างๆ ที่พ่วงเอาโครงการและรายชื่อของชาวบ้านไปอ้างประกอบการนำเสนอโครงการ
ขณะที่ทางตัวแทนโครงการพยายามชี้แจงข้อมูลแต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ รวมถึงนายกุน เขียวจำปา ผู้ใหญบ้านร่องแช่ พยายามชี้แจงถึงที่มาของเอกสารการประชุมที่ผ่านมาว่าเป็นไปตามขั้นตอน ก็ยิ่งทำให้กลุ่มชาวบ้านไม่พอใจ โดยส่วนใหญ่ตะโกนว่า ไม่เคยรับทราบความเป็นมาของโครงการนี้มาก่อน จนท้ายที่สุดตัวแทนบริษัทฯ ต้องประกาศให้ชาวบ้านทราบว่า เมื่อทางชุมชนไม่ต้องการโครงการมากถึงเพียงนี้ก็จำเป็นต้องยุติโครงการไป ทำให้ชาวบ้านพอใจและแยกย้ายกันกลับ หลังจากมีการประชุมกันเพียงประมาณ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น
นายนิยม กองบุญเกิด ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านใหม่ริมอิง กล่าวว่า ชาวบ้านเพิ่งจะรู้ว่ามีโครงการนี้เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อมีการปรากฏการประชุมเพื่อประกอบการขออนุญาตก่อตั้งโครงการบนพื้นที่ทางการเกษตรซึ่งถือว่าไม่เหมาะสม เพราะเป็นชนบทและไม่มีปัญหาขยะ แต่กลับจะนำเอาโรงงานไปก่อตั้ง ทำให้ชาวบ้านหวั่นเกรงเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แหล่งน้ำ โดยเฉพาะโรงงานอยู่ติดแม่น้ำอิง ที่มีน้ำหลากทุกปี
“แม้จะมีการยืนยันเรื่องเทคโนโลยีว่าทันสมัยอย่างไร พวกเราก็ไม่ไว้วางใจ จึงได้พากันออกมาคัดค้าน ซึ่งการที่บริษัทฯ ประกาศยกเลิกต่อหน้าสาธารณชนไปแล้วก็ขอให้ทุกฝ่ายยืนยันไว้เป็นหลักฐานด้วย”
นายสามารถ แสนนิทา ตัวแทนกลุ่มรักบ้านเกิด ซึ่งชาวบ้านทั้ง 4 หมู่บ้านตั้งขึ้น กล่าวว่า ชุมชนของพวกเราต้องการอยู่กับธรรมชาติที่ดี ไม่ต้องการความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบ โดยเฉพาะโรงงานที่เกี่ยวข้องกับขยะนั้น ประโยชน์คงจะเกิดแก่กลุ่มทุน ส่วนชาวบ้านในชนบทที่ห่างไกล และเป็นพื้นที่ทางการเกษตรที่อยู่กับธรรมชาติรวมทั้งไม่มีปัญหาขยะมากมาย คงจะมีแต่ความเสี่ยง ยิ่งพื้นที่ที่ถูกกำหนดติดแม่น้ำอิง ที่มีน้ำท่วมทุกปี ก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูงมาก จึงจะต่อต้านจนถึงที่สุด
ด้านนายวรพจน์ รัศมิทัต กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ กล่าวว่า ทางรัฐบาลและจังหวัดมีโครงการเรื่องดูแลสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะป้องกันการเผา เพื่อป้องกันมลภาวะอยู่แล้ว โครงการจึงได้เข้ามาศึกษาพื้นที่ต่างๆ เขต 51 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับ อ.เทิง พบที่บ้านใหม่ริมอิงมีความเหมาะสม ทั้งยังมีปริมาณขยะรวมกันมากถึงวันละกว่า 200 ตันและในอนาคตคงจะมากขึ้นอีก จึงเห็นว่าเหมาะจะตั้งโรงงานที่ทันสมัย และใช้เทคโนโลยีที่ไม่ทำให้เกิดมลภาวะ
“แต่เมื่อชาวบ้านไม่ต้องการเช่นนี้เราก็ไม่ดื้อดึง แต่รู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ไม่ยอมรับฟังข้อมูลที่จะนำเสนอเท่านั้น”