xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ ลำปางนำเยาวชนกลุ่มเสี่ยงทัวร์คุก หวังเตือนสติให้กลัวความผิด (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ลำปาง - ผู้ว่าฯ เมืองรถม้านำเยาวชนกลุ่มเสี่ยงเข้าดูความเป็นอยู่ผู้ต้องขังถึงในคุก หวังให้กลัวการกระทำผิด พร้อมสั่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนคัดกรองเด็กเสี่ยง 7 กลุ่มในชุมชนเข้าพัฒนาจิตใจระยะสั้น ก่อนพาทัวร์เรือนจำด้วยตัวเอง



วันนี้ (1 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้นำเยาวชนกลุ่มเสี่ยงที่เข้าค่ายบำบัดผู้เสพยาเสพติดกลุ่มย่อย ณ ศูนย์บำบัดยาเสพติดเชิงรุก กองร้อยและบริการ กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลำปาง ในศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง พร้อมชุดปฏิบัติการ ทำทันที (ททท) จังหวัดลำปาง และสื่อมวลชน เข้าเยี่ยมชมความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังในเรือนจำกลางลำปาง

ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางที่อยากให้เยาวชนกลุ่มเสี่ยงได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ ความยากลำบากของผู้ต้องขัง เมื่อถูกจับ และเป็นนักโทษในเรือนจำ เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จะได้เกรงกลัวต่อการกระทำความผิดในคดียาเสพติด

พร้อมกันนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้กำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แกนนำในชุมชนช่วยกันคัดกรองเยาวชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเป้าหมาย 7 ประเภท ได้แก่ หนีเรียน, ติดเกม, ก้าวร้าว, เด็กแว้น, สูบบุหรี่, ดื่มเหล้า-เบียร์ และติดยาเสพติด นำมาเข้าค่ายพัฒนาจิตใจแบบระยะสั้น รุ่นละ 120 คน โดยจะพาเข้าไปเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังด้วยตัวเองทุกคน

ทั้งนี้ เรือนจำกลางลำปางขณะนี้มียอดผู้ต้องขัง 2,305 คน ร้อยละ 76 ต้องโทษคดียาเสพติด มีผู้ต้องขังหญิง 327 คน ผู้ต้องขังรายสำคัญที่ศาลได้พิพากษาจำคุก เกินอำนาจของเรือนจำกลางลำปาง เกิน 20 ปี จำนวน 33 คน ผู้ต้องขังรายสำคัญที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดี ดำเนินคดี และถูกจับกุมจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดลำปางจำนวน 67 คน ผู้ต้องขังคดีอุกฉกรรจ์อื่นๆ จำนวน 9 คน

ขณะที่ข้อมูลของสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 ระบุว่า ขณะนี้ลำปางมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดชนิดใหม่ในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นยาตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 ชื่อยา “มิดาโซแลม และอัลฟาโซแลม” ในกลุ่มตระกูลโซแลม วัยรุ่นจะใช้เสพโดยผสมน้ำยาแก้ไอ โค้ก หรือโซดา เหมือนกับสี่คูณร้อย จึงฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบกลุ่มพฤติการณ์ของวัยรุ่นที่ใช้ยาพวกนี้เป็นยาเสียสาว เมื่อกินแล้วจะมีอาการจิตหลอน คลุ้มคลั่ง ออกฤทธิ์กดประสาท ถือเป็นตัวกระตุ้นอย่างหนึ่ง ขายแผงละ 200 บาท หาซื้อได้จากเภสัชกรร้านขายยาบางแห่ง

ซึ่งตัวยาทั้ง 2 ชนิดนี้ไม่มีสิทธิ์นำมาจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป ต้องใช้ภายใต้คำสั่งของแพทย์เท่านั้น เว้นแต่เสพตามใบสั่งแพทย์ได้รับการยกเว้น ถ้าไม่มีใบสั่งแพทย์ หรือว่านำมาขายผิดกฎหมาย จูงใจ ยุยงส่งเสริมใช้อุบาย หลอกลวงขู่เข็ญให้ผู้อื่นเสพ จำคุกไม่เกิน 2-10 ปี ปรับตั้งแต่ 40,000-200,000 บาท

นายฉัตรชัย สิงห์โต ผู้แทน สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 กล่าวว่า นอกจากนี้ตัวยาที่วัยรุ่นนำมาใช้ในทางที่ผิด ชื่อยา “โปรโคดิล” เป็นยาแก้แพ้และแก้ไอชนิดหนึ่ง เภสัชกรก็ไม่มีสิทธิ์นำมาจำหน่ายเช่นกัน ต้องใช้ภายใต้คำสั่งของแพทย์เท่านั้น ผลข้างเคียงเป็นยาที่มีฤทธิ์ต่อการกดการหายใจ นำไปสู่ภาวะกล้ามเนื้อเกร็งจนเกิดความเจ็บปวด

นอกจากนี้ ยังอาจเกิดอาการเคลิ้ม หรืออาการสับสนเฉียบพลัน รวมถึงมีอาการชักเกร็งกระตุกแบบ GTC หรืออาการชักแบบเกร็งกระตุกทั้งตัว อันเป็นอาการชักที่รุนแรงที่สุด ส่งผลให้ผู้ป่วยหมดสติได้อย่างรวดเร็ว คนไข้อาจเกิดหัวใจเต้นเร็ว และเกิดความดันต่ำ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ภาวะอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา โดยยาโปรโคดิลมีพิษแบบที่ยิ่งกินมากยิ่งเป็นอันตรายมาก เป็นตัวยาชนิดเดียวกับที่เคยเป็นข่าวกลุ่มวัยรุ่นกินแล้วเสียชีวิตที่กรุงเทพมหานคร




กำลังโหลดความคิดเห็น