เชียงราย- พ่อเมืองเชียงรายเดินทางเข้าพื้นที่ ต.บุญเรือง อ.เชียงของ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านที่คัดค้านไม่ให้พื้นที่จัดตั้งเขตเศรษฐกิจฯ อ้างจะใช้พื้นที่เพียง 1,000 ไร่ และเป็นอุตสาหกรรมเบา ด้านชาวบ้านไม่เชื่อ พร้อมยืนยันไม่ให้ใช้พื้นที่เด็ดขาด ล่าสุด ยังไม่ได้ข้อยุติ
ที่ศาลาวัดบ้านบุญเรือง ม.2 ต.บุญเรือง อ.เชียงของ จ.เชียงราย นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ปัญญา คอนซัลแทนต์ จำกัด เอกชนที่ปรึกษาของจังหวัด ไปพบปะกับชาวบ้าน เพื่อชี้แจงโครงการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ภายหลังมีการคัดค้านไม่เห็นด้วยกับการใช้พื้นที่ ต.บุญเรือง จำนวน 3,021 ไร่ 1 งาน 75 ตารางวา ซึ่งจังหวัดได้ศึกษาแล้วเสนอให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) เลือกดำเนินการ
โดยมีชาวบ้านร่วมประมาณ 200 คน และมี นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชน นายระวี ถาวร ผู้จัดการโครงการอนุรักษ์แม่น้ำอิง เข้าร่วมด้วย ซึ่งนายบุญส่งให้เจ้าหน้าที่และบริษัทที่ปรึกษาให้ข้อมูลความเป็นมาของโครงการ และคณะกรรมการระดับจังหวัดมีการคัดเลือกพื้นที่ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ เพื่อจัดตั้งเพราะมีความเหมาะสม คือ อ.แม่สาย โดดเด่นด้านการค้าและการเงิน เชียงแสนโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวพักผ่อนและการศึกษา และเชียงของโดดเด่นด้านโลจิสติกส์ ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และแปรรูปการเกษตร
ขณะที่ชาวบ้านจัดเป็นนิทรรศการด้านหน้าห้องประชุมเกี่ยวกับความอุดมสมบูรณ์ของป่าชุมชนบุญเรืองซึ่งเรียกชื่อพื้นที่แตกต่างจากจังหวัด ที่ระบุว่า เป็นที่เลี้ยงสัตว์สาธารณประโยชน์บุญเรือง ทางโครงการให้ข้อมูลการวิจัยพื้นที่ประกอบภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวทางอากาศว่า พื้นที่นี้มีความสมบูรณ์
โดยเฉลี่ยมีไม้หนาแน่นเฉลี่ย 124 ต้นต่อไร่ ซึ่งมากกว่าป่าเสื่อมโทรม 8 เท่า แบ่งเป็นไม้หนุ่มสูงไม่เกิน 2 เมตร 63 ต้นต่อไร่สูงกว่าป่าเสื่อมโทรม 3 เท่า วัดรอบระดับอกได้ 50 - 100 ซม. มี 44 ต้นต่อไร่มากกว่าป่าเสื่อมโทรม 5.5 เท่า และไม้ที่วัดรอบอกได้มากกว่า 100 ซม. มี 17 ต้นต่อไร่ หรือมากกว่าป่าเสื่อมโทรม 8 เท่า กักเก็บคาร์บนเหนือดิน 17,247 ตัน มีลูกไม้ทดแทนและไม้หนุนที่ขึ้นแทนในอัตราสูง เป็นป่าชุ่มน้ำและสมบูรณ์ด้วยสัตว์ไม่รวมแมลงกว่า 211 ชนิด ที่สำคัญคือ มีเสือปลาที่ใกล้สูญพันธุ์ นาก ชะมด แมวดาว ฯลฯ ที่เป็นสัตว์หายาก
นายบุญส่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับความสมบูรณ์ของพื้นที่ แต่สิ่งที่จะนำไปใส่ในพื้นที่ไม่ใช่ยาพิษ แต่เป็นสิ่งที่ดีและแม้จะมีอุตสาหกรรม แต่เป็นเชิงนิเวศ เพราะไม่มีมลภาวะ หากจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ก็จะให้กระทบน้อยที่สุด และเชื่อว่า สาเหตุที่ไม่เห็นด้วยเกิดจากไม่เคยมีเจ้าหน้าที่เข้าไปให้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีผู้ที่ได้หรือเสียผลประโยชน์เข้าไปให้ข้อมูลกับชาวบ้านแทน
กรณีที่เลือกที่ ต.บุญเรือง เพราะที่ดินอื่นราคาพุ่งสูงมาก จนนักธุรกิจไม่สามารถซื้อแล้วเข้าไปประกอบการจนได้ผลตอบแทนในอัตราที่รวดเร็วได้ ดังนั้น ที่ ต.บุญเรือง จึงเหมาะสมและตนก็เห็นถึงความสมบูรณ์เรื่องสัตว์ป่าและพันธุ์พืชตามที่นำเสนอแต่ก็สามารถปรับให้เหมาะสมได้โดยจะขอพื้นที่เพียง 1 ใน 3 ของเนื้อที่ทั้งหมดหรือราว 1,000 ไร่ โดยที่สมควรสงวนเอาไว้ เราก็จะสงวนเอาไว้ส่วนที่จำเป็นน้อยลงก็นำไปดำเนินการดังกล่าว ส่วนการซื้อขายที่ดินที่เป็นปัญหาก็คงไม่เกิดขึ้น เพราะรัฐจัดหาที่ดินให้เองและการให้ข้อมูลไปต่าง ๆ นานา ก็จะยุติ กระนั้นยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเอกชนรายใดแน่นอน
นายบุญส่ง กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีข่าวการสร้างศูนย์ขนส่งสินค้าเชื่อมสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย - สปป.ลาว ที่ อ.เชียงของ และหากมีการสร้างศูนย์นี้ที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ก็จะมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ อยู่ฝั่งเดียว แต่หากมีการจัดตั้งในฝั่งไทยในนามเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าว ทางกรมโยธาธิการและผังเมือง ก็มีงบประมาณให้แล้วอำเภอละ 50 ล้านบาท เพื่อเข้าไปสร้างสาธารณูปโภค เช่น ถนน ไฟฟ้า ฯลฯ ให้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นชาวบ้านได้แสดงความเห็น ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้คัดค้านการจัดตั้งเขตฯ แต่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ที่ ต.บุญเรือง เพราะเกรงว่าจะมีผลกระทบโดยเฉพาะน้ำเสีย โดยไม่ไว้ใจว่าจะไม่เกิดผลกระทบขึ้นจริง เพราะเอกชนที่เคยจะลงทุนในทุ่งสามหมอน ต.สถาน และ ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ ซึ่งการนิคมอุตสาหกรรม (กนอ.) เคยศึกษาให้เป็นเขตจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมจะย้ายจากทุ่งสามหมอนไปลงทุนในป่าชุมชนบุญเรืองแทนด้วยสาเหตุของราคาที่ดินพุ่งสูงดังกล่าว
ขณะที่บางส่วนเห็นว่ารัฐบาลในปัจจุบันมีนโยบายให้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พื้นที่แก้มลิง ฯลฯ จึงควรปฏิบัติตาม และป่าชุมชนบุญเรืองอยู่ที่ลุ่มชุ่มน้ำติดแม่น้ำอิงหากว่าต้องสร้างแม้จะเป็น 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด และใช้เพื่ออุตสาหกรรมเบาก็ต้องถมดินอยู่ดี ซึ่งจะทำให้พื้นที่หลายตำบลโดยรอบได้รับผลกระทบกันหมด เพราะน้ำอิงโดยเฉพาะฤดูน้ำหลากจะทะลักเข้าท่วม บางคนถึงขนาดระบุว่าหากแสดงการคัดค้านตามกฎหมายไม่ได้ผลก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อคัดค้านต่อไป
นางเตือนใจ กล่าวว่า พื้นที่ป่าชุมชนบุญเรืองเป็นป่าชุ่มน้ำที่มีพืชมากมายและมีสัตว์ป่าหลากหลายพันธุ์โดยบางชนิดเป็นสัตว์ป่าหายาก จึงเป็นป่าชุมชนที่สมบูรณ์กว้างใหญ่มากที่สุดของลุ่มแม่น้ำอิง ดังนั้น การที่รัฐบาลมียุทธศาสตร์ฟื้นฟูระบบนิเวศ ป่าไม้ ดังนั้น เมื่อมีพื้นที่เช่นนี้ควรอนุรักษ์เอาไว้ส่วนจะจัดตั้งเขตฯ ควรไปหาพื้นที่อื่นที่ยังมีอีกหลายแห่งแทน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากการรับฟังความเห็นที่ ต.บุญเรือง ครั้งนี้ไม่ได้ข้อยุติ จนทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายต้องเดินทางกลับโดยยกเลิกกำหนดไปดูพื้นที่ด้วย