อุบลราชธานี - จังหวัดสั่งปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลทั้ง 8 บาน ตามมติคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล หลังเปิดประตูมาครบเวลา 3 เดือน และระดับน้ำแม่น้ำมูลลดต่ำอยู่ในเกณฑ์ต้องปิดตามมติ ขณะที่จังหวัดให้หน่วยงานแจ้งเตือนเกษตรกรงดปลูกข้าวนาปรัง หันมาปลูกพืชอายุสั้นและกินน้ำน้อยหารายได้ในฤดูแล้งนี้ไปก่อน
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมคณะทำงานพิจารณาการเปิดและปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล ลงสำรวจระดับน้ำแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี พบมีระดับน้ำสูง 106.97 มรกท. หรือมีความสูง 1.97 เมตรจากความสูง 7 เมตร และมีอัตราการไหลของน้ำ 96 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ซึ่งระดับน้ำของแม่น้ำมูลขณะนี้อยู่ในเกณฑ์ที่คณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลมีมติในการประชุมครั้งที่ 4/2558 เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2558 ที่อาคารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาลให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ หลังเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ให้ปลาในแม่น้ำโขงขึ้นมาวางไข่ในแม่น้ำมูลไปแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน
วันนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจึงมีหนังสือแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่เหนือและท้ายน้ำเขื่อนปากมูล ซึ่งมีทรัพย์สินอยู่ตามลำน้ำให้เก็บทรัพย์สินเพื่อระวังระดับน้ำที่จะมีการเปลี่ยนแปลง โดยเขื่อนปากมูลจะทำการปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลทั้ง 8 บานให้สนิทภายในวันที่ 20 พ.ย.
ด้านนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า หลังปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล จังหวัดจะทำการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งจากรายงานของหน่วยงานด้านชลประทานยืนยันจังหวัดมีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคและเลี้ยงระบบนิเวศวิทยาของลุ่มน้ำสาขา แต่ไม่เพียงพอในการปลูกข้าวนาปรัง
จึงประกาศให้ชาวนางดปลูกข้าวนาปรัง แล้วหันมาปลูกพืชกินน้ำน้อย เช่น ถั่ว หรือปลูกพืชผักสวนครัวที่มีระยะเวลาเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อยในฤดูแล้งปีนี้ จนกว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะดีขึ้นในปีหน้า