ฉะเชิงเทรา - ตัวแทนกลุ่มประมงพื้นบ้าน อาชีพ “กางอวนมุ้งรอเคย” บุกยื่นหนังสือร้องผู้ว่าฯ แปดริ้ว ช่วยแก้ปัญหาหลัง คสช.คุมเข้มต่ออาชีพทำกิน โดยเครื่องมือทำประมงดังกล่าวเคยมีประกาศของจังหวัดกว่า 30 ปี ให้เป็นเขตพื้นที่เฉพาะกางอวนมุ้งรอเคยได้ตลอดลำน้ำบางปะกงในจังหวัด
วันนี้ (15 ก.ค.) กลุ่มผู้นำชุมชนซึ่งเป็นตัวแทนจากชาวบ้านรวม 2 หมู่บ้าน ในเขตพื้นที่ ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจาก นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา หลังได้รับผลกระทบจากคำสั่ง คสช.ห้ามใช้เครื่องมือทำกินซึ่งมีลักษณะคล้ายโพงพาง จนชาวบ้านในพื้นที่ ม.2 และ ม.6 ต.สองคลอง ซึ่งเดิมเคยมีอาชีพทำกะปิมาตั้งแต่บรรพบุรุษดั้งเดิม ได้รับผลกระทบไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัวมานานกว่า 1 เดือนเต็มแล้วนั้น
ในวันนี้ ที่ห้องประชุม 2 ชั้น 4 ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย หัวหน้าสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 ประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดฉะเชิงเทรา และ นาวาเอกสามารถ ศรีม่วง รองหัวหน้าฝ่ายกำลังพล ศรชล.เขต 1 และหัวหน้าศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้าออกเรือประมง จ.ฉะเชิงเทรา (PIPO) เพื่อหาทางช่วยเหลือชาวบ้านจำนวนเกือบ 300 ครัวเรือน ที่กำลังได้รับผลกระทบจากมาตรการเข้มงวดดังกล่าวนี้
หลังการประชุม นายอนุกูล กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการตีความเกี่ยวกับเครื่องมือทำประมงของกลุ่มประมงพื้นบ้านในบริเวณนี้ ที่เป็นเรื่องของการกางอวนมุ้งรอเคย ที่จับเอาเฉพาะเคยมาทำกะปิ และเป็นการกางรอเพียงชั่วคราวประมาณ 3 ชม.ต่อครั้ง จึงเป็นเรื่องของการตีความตามบัญญัติของกรมประมง หากมีการตีความที่อย่างเคร่งครัดก็จะเข้าลักษณะที่เป็นโพงพาง เพราะเครื่องมือชนิดนี้มีลักษณะที่คล้ายกันกับโพงพางมาก
“แต่หากดูตามลักษณะของการประกอบอาชีพจริงๆ แล้ว ก็เป็นอาชีพที่ชาวบ้านเลือกจับเอาเฉพาะเคย ซึ่งเป็นสัตว์น้ำอายุสั้น และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อปลา หรือสัตว์น้ำอื่นๆ ตรงนี้จึงต้องส่งไปให้ทางประมงได้ไปดูในรายละเอียด เพื่อที่จะได้เชิญทางส่วนกลางมาดูว่าเครื่องมือชนิดนี้อาจจะไม่เข้ากันกับเครื่องมือที่มีลักษณะที่คล้ายโพงพาง” นายอนุกูล กล่าว
นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีดังกล่าวชาวบ้านจะทำกินได้หรือไม่นั้นก็อยู่ที่กรมประมง โดยทางจังหวัดจะรวบรวมเอาข้อเท็จจริงทั้งหมดนี้ส่งไปให้ทางกรมประมงได้รับทราบ และเชื่อว่ากรมประมงเองนั้นก็น่าจะมีเหตุมีผลที่จะบัญญัติเครื่องมือชนิดนี้ให้เป็นเครื่องมือแบบเฉพาะอาชีพได้
สำหรับในช่วงระหว่างที่รอการตีความเพื่อให้เกิดความชัดเจน จึงอยากขอให้ประชาชนผู้ประกอบอาชีพกางอวนมุ้งรอเคย รอไปอีกสักระยะหนึ่งก่อนเพื่อให้ทางกรมประมงได้เข้ามาดูข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาต่อไปในอนาคต ซึ่งคาดว่าคงจะใช้เวลาอีกไม่นาน และทางกรมประมงก็น่าจะตอบสนองในเรื่องนี้ได้เร็วเพราะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต และอาชีพทำกินของชาวบ้าน