ปัตตานี - ชาวประมงพื้นบ้านรอบอ่าวปัตตานี รวมตัวจี้ “บิ๊กตู่” ขอคำตอบ 5 ข้อ หลังยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ ขอผ่อนผันใช้ “ไอ้โง่” ไปก่อน และให้ทำการสำรวจวิจัยใหม่อีกครั้งถึงผลกระทบที่แท้จริง
วันนี้ (18 ส.ค.) ผู้สื่อข่ารายงานว่า ที่ทำการสมาคมประมงปัตตานี ต.บานา อ.เมืองปัตตานี กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านจาก ต.บางปู ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง ต.บางตาวา ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก และกลุ่มประมงพื้นบ้าน ต.สะบารัง ต.บานา ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี จำนวน 800 ลำ ที่ใช้เครื่อง มือลอบพับได้ หรือไอ้โง่ เป็นอุปกรณ์ในการจับสัตว์น้ำในทะเลรอบอ่าวปัตตานี ได้รวมตัวแสดงพลัง และทวงคำตอบ 5 ข้อ ที่ยื่นผ่าน นายวีระพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ถึงนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมาว่ามีทางออก หรือสามารถผ่อนผันให้สามารถใช้เครื่องมือไอ้โง่จับสัตว์น้ำในทะเลไปก่อนได้หรือไม่
โดยในที่ชุมนุมประท้วงได้มีชาวประมงพื้นบ้านของแต่ละตำบล ร่วมกันละหมาดฮายัต ขอพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ช่วยดลบันดาลใจให้รัฐบาลรับฟังความเดือดร้อน และความคิดเห็นของชาวประมงพื้นบ้าน จนนำไปสู่การอนุโลมให้ใช้เครื่องมือไอ้โง่ได้ จากนั้นตัวแทนแต่ละชุมชนได้มีการสลับกันเล่าถึงความเดือดร้อน ไม่มีรายได้ เนื่องจากไม่กล้าออกจับสัตว์น้ำในทะเลตั้งแต่รัฐบาลและ คสช.ประกาศใช้กฎหมายมาตรา 44
โดยเฉพาะเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องมือผิดประเภท โดยประมงพื้นบ้านที่ได้รับผลกระทบยืนยัน ขอให้รัฐบาลชะลอการบังคับใช้กฎหมาย ห้ามเครื่องมือไอ้โง่ทำกิน รวมถึงให้จัดการสำรวจและวิจัยใหม่อีกครั้ง โดยการลงพื้นที่สำรวจร่วมกับประมงพื้นบ้านแต่ละท้องที่ เนื่องจากไม่เชื่อถือผลการทำวิจัยของกรมประมงที่ผ่านมา เพราะไม่ได้ลงพื้นที่จริง แต่กลับนำเอาเครื่องมือจับสัตว์น้ำไอ้โง่ ไปทดลองดักจับกุ้งในบ่อเลี้ยง จึงทำให้ภาพของไอ้โง่ดูเป็นเครื่องมือทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำสูง รวมถึงลักษณะของเครื่องมือที่ใช้นั้นไม่ได้วางขวางทางน้ำตามที่ผลวิจัยออกมาด้วย
นายสมศักดิ์ แหล่หมัน ชาวประมงพื้นบ้านแหลมนก อ.เมืองปัตตานี เปิดเผยว่า สำหรับการออกมารวมพลังของกลุ่มประมงพื้นบ้านในครั้งนี้ นอกจากจะขอรับทราบผลตามหนังสือที่ยื่นไปก่อนนี้ 5 ข้อแล้ว ยังมีการขอให้ตัวแทนชาวประมงแต่ละพื้นที่ เสนอแนวทางหาทาวออกร่วมกัน พร้อมทั้งร่วมกันลงชื่อเตรียมยื่นถวายฎีกาขอความช่วยเหลืออีกทาง เพราะทุกวันนี้หลายครอบครัว ลูกหลานได้กลับมาทำประมงพื้นบ้าน
ซึ่งก่อนนี้เคยละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดไปขายแรงงานต่างพื้นที่ เพราะไม่มีสัตว์น้ำให้จับขาย แต่หลังมีโครงการพระราชดำริ สร้างปะการังเทียมตลอดแนวชายฝั่ง ทำให้ทะเลฝั่งของเรากลับมาอุดมสมบูรณ์ได้อีกครั้ง หลายครอบครัวจึงได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ช่วยกันทำมาหากินด้วยการจับสัตว์น้ำทางทะเลขาย
