ชาวบ้านร้องตรวจสอบโรงงานแป้งมันบ่อน้ำเสียแตก

อุบลราชธานี -กลุ่มสมาชิกสภาจังหวัดอุบลราชธานี พาชาวบ้านกว่าร้อยคนร้องเรียนจังหวัด ให้ตรวจสอบสภาพน้ำในลำน้ำโดมใหญ่ อ้างคุณภาพน้ำยังไม่ดีขึ้น และเรียกร้องให้ฟื้นฟูต่อเนื่อง ขณะที่โรงงานแป้งมันแจงทุ่มงบเกือบ 300 ล้านบาท ใช้แก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ และจะปล่อยปลา รวมทั้งกุ้งกรามก้ามจนกว่าลำน้ำจะอุดมสมบูรณ์เหมือนอดีต

ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มีกลุ่มชาวบ้านจากอำเภอพิบูลมังสาหาร และนาเยีย จำนวนประมาณ 150 คน นำโดย นายอธิป สายบุญ ส.จ.อำเภอพิบูลมังสาหาร มารวมตัวเรียกร้องให้ตรวจสอบการแก้ปัญหาบ่อน้ำเสียโรงงานแป้งมันสำปะหลังอุบลเกษตรพลังงาน ความจุ 5 แสนลูกบาศก์เมตร แตกไหลลงสู่ลำน้ำลำโดมใหญ่เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ต่อมา พ.อ.เวิน จำปาสา รองผู้อำนวยการรักษาความสงบจังหวัด (รอง ผอ.รมน.) ฝ่ายทหาร ได้เชิญตัวแทนชาวบ้าน และกลุ่ม ส.จ.ที่มาร้องเรียน จำนวน 20 คน เข้าหารือ และรับหนังสือร้องเรียน โดยเรียกร้องต้องการให้ตรวจสอบการตั้งโรงงานได้รับอนุญาตหรือไม่ มีการแอบปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำน้ำโดมใหญ่จริงหรือไม่ และต้องการให้บริษัทรับผิดชอบฟื้นฟูลำน้ำให้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม

หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมจังหวัดได้มาชี้แจงต่อกลุ่มผู้ร้องเรียน โดยระบุว่า หลังเกิดเหตุมีการเข้าตรวจสอบโรงงานเป็นระยะ และวันที่ 25 มิ.ย.สั่งปรับโรงงานที่ทำให้น้ำเสียไหลลงสู่ลำน้ำเป็นเงินกว่า 240,000 บาท และให้ปรับปรุงซ่อมแซมบ่อเก็บน้ำเสีย โดยทำเป็นผนังกั้นน้ำเสร็จเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบค่าดีโอของน้ำในแม่น้ำมูล ที่บ้านคันลึม ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร เมื่อวันที่ 8 ต.ค.พบว่า มีค่าดีโอ 4.9-5.1 ซึ่งมีค่าอยู่ในระดับสูงเกินกว่า 2 จึงไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ แต่เพื่อความสบายใจ หน่วยงานสิ่งแวดล้อมจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจวัดเก็บตัวอย่างน้ำเป็นระยะ จนกว่าชาวบ้านจะพอใจ ส่วนการร้องเรียนในเรื่องอื่นให้ศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่องไว้ดำเนินการต่อไป

ด้าน นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัทอุบลไบโอเอทานอล เจ้าของโรงงานแป้งมันอุบลเกษตรพลังงาน กล่าวว่า ปัญหาบ่อน้ำเสียของโรงแป้งมันดังกล่าว หลังเกิดเหตุเมื่อปลายเดือนมีนาคม ได้แก้ไขมาเป็นระยะ ล่าสุด โรงงานได้ลงทุนทำผนังซีเมนต์เสริมกันหน้าดินบ่อบำบัดน้ำเสียไม่ให้พังทลายด้วยงบประมาณกว่า 280 ล้านบาท ซึ่งโครงการทำผนังซีเมนต์ได้เสร็จสมบูรณ์เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ขณะนี้กำลังเริ่มปูผ้ายางรองก้นบ่อเพื่อไม่ให้น้ำเสียมีโอกาสไหลซึมออกไปได้อีกชั้น ส่วนการฟื้นฟูได้ปล่อยพันธุ์ปลากินพืช และกุ้งก้ามกราม จำนวน 1.3 ล้านตัว เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และจะทำการปล่อยปลา และสัตว์น้ำลงสู่ลำน้ำเป็นระยะจนกว่าสภาพลำน้ำจะกลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิมต่อไป