ส.โรงแรมตะวันออกถกค่าบำบัดน้ำเสีย เมืองพัทยาแจงต้องมีส่วนร่วมกับ สวล.

ศูนย์ข่าวศรีราชา-สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ถกปัญหาค่าบำบัดน้ำเสียเมืองพัทยา ระบุอัตราจัดเก็บสูงเกินจริง ด้านเมืองพัทยาแจงต้องดำเนินการตามกฎหมาย วอนทยอยผ่อนชำระ ชี้เป็นภาระจำเป็นต้องร้องขอให้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม

นายสรรเพ็ชร ศุภบวรเสถียร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก เป็นประธานการประชุมสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ครั้งที่ 7/2558 ที่โรงแรมอิสตินพัทยา จ.ชลบุรี โดยมีคณะกรรมการบริหาร สมาชิก และตัวแทนจากเมืองพัทยา รวมทั้งส่วนงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยได้มีการนำกรณีของปัญหาการชำระค่าบำบัดน้ำเสียของเมืองพัทยาขึ้นมาร่วมพิจารณา

ทั้งนี้ ปัจจุบันผู้ประกอบการโรงแรมจำนวนมากต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการบำบัดน้ำเสียเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีการคิดอัตราสูงเกินจริง เนื่องจากสถานประกอบการหลายแห่งมีระบบบำบัดน้ำเสียที่จัดทำขึ้นเอง และไม่ได้ปล่อยน้ำเสียเข้าสู่ระบบบำบัดรวมของเมืองพัทยาทั้งหมด มีการหมุนเวียนนำน้ำทิ้งเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นด้วย เช่น การรดน้ำต้นไม้ หรือระบบสุขภัณฑ์ เป็นต้น จึงมีการร้องขอให้เมืองพัทยาผ่อนผัน หรือปรับลดอัตราดังกล่าวที่คิดตามปริมาตรการใช้น้ำประปา

ด้านตัวแทนจากเมืองพัทยา ระบุว่า การจัดเก็บอัตราค่าธรรมเนียมในระบบบำบัดน้ำเสียถือเป็นกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากมีกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมระบุบังคับไว้ ซึ่งเมืองพัทยาถือเป็นแห่งแรกในประเทศที่ดำเนินการสำเร็จ ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวเองก็มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการต่อไปเพื่อร่วมรักษาสภาพแวดล้อม ดังนั้น ผู้มีส่วนต่อการก่อมลพิษจึงควรต้องร่วมรับผิดชอบ

อย่างไรก็ตาม จากการปรับอัตราการจัดเก็บในรูปแบบใหม่ที่คิดตามปริมาตรการใช้น้ำจริงก็ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ แต่หากผู้ประกอบการรายใดมีระบบบำบัดน้ำเสียที่จัดทำขึ้นเองก็สามารถประสานเมืองพัทยาเข้าไปทำการตรวจสอบ และวัดค่าคุณภาพของน้ำที่ปล่อยเข้าสู่ระบบรวม หากพบว่า มีค่ามาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดก็สามารถลดหย่อนค่าธรรมเนียมได้

ขณะที่รายอื่นๆ นั้นก็ขอให้มาดำเนินการชำระตามกฎหมาย แต่สามารถอะลุ้มอล่วยด้วยการผ่อนชำระในระยะยาว ขณะที่เมืองพัทยาเองก็จะเสนอเรื่องต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อขอแก้ไขเรื่องของอัตราการจัดเก็บใหม่ เพื่อลดภาระ และแบ่งเบาปัญหาที่เกิดขึ้น

ด้าน นายสรรเพชร ศุภบวรสเถียร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวเพิ่มเติมว่าจากสถานการณ์เรื่องของน้ำท่วมขังในพื้นที่เมืองพัทยาในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวพอสมควร แม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในระยะเวลาอันสั้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีการเผยแพร่ข้อมูล และภาพเหตุการณ์ที่รุนแรงผ่านทางโลก Social Network อย่างต่อเนื่อง ทำให้กระแสของโลกเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

ทั้งนี้ ในส่วนของสมาคมฯ ในช่วงเวลานี้จะเป็นตัวแทนในการปรับแก้ข้อมูลพร้อมชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง รวมทั้งภาพของเมืองพัทยาออกไปสู่สาธารณะเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนว่าเมืองพัทยายังคงปลอดภัย และไร้ปัญหาเรื่องของภัยธรรมชาติ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวในอนาคต