xs
xsm
sm
md
lg

นายก ส.อสังหาฯ ชลบุรี ยันตลาดบ้านในพื้นที่ยังเติบโต แม้ภาพรวมปี 58 จะลดลงถึง 30%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ชลบุรี ยันตลาดอสังหาฯ ชลบุรี ยังเติบโตได้จากการไหลเข้ามาของแรงงานต่างถิ่น แม้ภาพรวมในปี 2558 จะแผ่วลงตามผลกระทบที่เกิดจากการลดจำนวนโอทีของกลุ่มอุตฯ ยานยนต์ในพื้นที่ที่ส่งผลต่อฐานกำลังซื้อในตลาดสำคัญที่ชะลอไปถึง 30% ขณะที่นโยบายลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองของรัฐบาล ก็เชื่อว่าจะกระตุ้นการตัดสินซื้อบ้านของคนในพื้นที่ได้บ้าง แต่ไม่ใช้ในระยะยาว

นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ชลบุรี เผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดชลบุรี ในปี 2558 ว่า อัตราเติบโตลดลงถึง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา และการชะลอกำลังผลิตของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ทำให้โรงงานรถยนต์หลายแห่งในจังหวัดชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงต้องปรับลดจำนวนโอทีของพนักงาน ขณะที่บางโรงงานถึงขั้นปลดคนงานออก ทำให้การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของพนักงานกลุ่มนี้ซึ่งถือเป็นฐานตลาดสำคัญของโครงการที่อยู่อาศัย ต้องยืดการตัดสินใจซื้อออกไปตามรายได้ที่ลดลง

โดยพบว่า โครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบด้านการขายมากที่สุด คือ โครงการที่มีกลุ่มเป้าหมายในระดับกลาง-ล่าง ซึ่งที่อยู่อาศัยที่มีราคาขายในระดับ 3 ล้านบาท ถึง 1 ล้านบาท จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากกลุ่มพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นครอบครัวขนาดเล็กจึงไม่นิยมซื้อที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่

ขณะที่การเข้มงวดเรื่องการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของแบงก์พาณิชย์ที่ค่อนข้างมากจนเกินไป โดยเฉพาะการเข้มงวดต่อการปล่อยสินเชื่อสำหรับพนักงานระดับล่าง ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้กำลังซื้อในส่วนนี้หายไปค่อนข้างมากในปี 2558 ส่วนกลุ่มลูกค้าในระดับกลาง ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตลาดที่ได้รับผลกระทบ แต่ก็ยังไม่มากนัก

นายมีศักดิ์ ยังเผยถึงการเข้ามาของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากส่วนกลางที่ขยายการลงทุนเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่องว่า เกิดขึ้น และเห็นได้ชัดตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน ทั้งนี้ เป็นเพราะศักยภาพของจังหวัดชลบุรีที่มีระดับ GDP สูงเป็นอันดับ 2-3 ของประเทศ และยังมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 12% ต่อปี รวมทั้งยังมีการขยายตัวของกลุ่มอุตสาหกรรม และการเกิดใหม่ของนิคมอุตสาหกรรม จึงถือเป็นแรงจูงใจที่ดี เพราะกลุ่มธุรกิจย่อมมองเห็นว่าในอนาคตจะมีประชากรเข้ามาอยู่ในพื้นที่มากขึ้น ก็ทำให้บริษัทในตลาดหลักทรัพย์เข้ามาลงหลักปักฐานทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในชลบุรีอย่างต่อเนื่อง

“การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดชลบุรี นับจากนี้จะเป็นไปใน 2 ลักษณะคือ ในแนวสูงคือ คอนโดมิเนียม เพื่อรองรับกลุ่มคนเมือง และนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองพัทยา ส่วนการพัฒนาในแนวราบ จะมุ่งเน้นรองรับประชากรที่ย้ายเข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้กลุ่มทุนใหญ่ซึ่งเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์จะเข้ามาในจังหวัดชลบุรีจำนวนมาก แต่จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ก็พบว่า กลุ่มทุนเหล่านั้นมีส่วนแบ่งทางการตลาดในพื้นที่เมื่อปีที่แล้วเพียง 5% เท่านั้น”

นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ชลบุรี เชื่อว่า การลงทุนด้านที่อยู่อาศัยของนักลงทุนในพื้นที่ยังสามารถทำได้ดีกว่า เพราะการลงรายละเอียดของสินค้า และการพัฒนาคุณภาพสินค้า รวมทั้งกำหนดราคาได้ตรงใจคนพื้นที่ ที่สำคัญยังมีข้อได้เปรียบด้านทำเลจึงทำให้มีโอกาสทางการแข่งขันสูง ส่วนบริษัทในตลาดหลักทรัพย์มีข้อได้เปรียบเพียงภาพลักษณ์

เชื่อนโยบายลดธรรมเนียมการโอนกระตุ้นตลาด

นายมีศักดิ์ ยังเผยถึงนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยของประชาชน ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองจาก 1% เป็น 0.1 คือ ลดลงจาก 1 หมื่นบาท เหลือเพียง 100 บาทต่อราคาบ้าน 1 ล้านบาท ว่า น่าจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อได้ แต่ยังไม่ใช่การแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจที่แท้จริง เพราะหากประชาชนยังมีปัญหาด้านรายได้ ก็อาจทำให้การปล่อยสินเชื่อดังกล่าวมีปัญหาในระยะยาวได้ อย่างไรก็ดี รัฐบาลก็ยังจะต้องกระตุ้นแบงก์พาณิชย์ให้หันมาปล่อยกู้เพื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

ขณะที่ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดชลบุรีในปีหน้า มองว่า หากดูจากยอดการขายของโครงการต่างๆ ในปัจจุบันแล้วเชื่อว่าจะยังคงไปได้ กล่าวคือ การลงลงของตลาดในปี 2558 เป็นเพียงการลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ แต่หากผู้ประกอบการสามารถพัฒนาโครงการและคุณภาพของสินค้าได้ตรงใจผู้ซื้อ ย่อมได้รับกำลังซื้อของกลุ่มผู้บริโภคที่ทำงานโรงงานในนิคมฯ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจเช่นกัน

ชาวชลบุรี แห่ใช้บริการที่ สนง.ที่ดิน หลังนโยบายกำหนดนโยบายลดค่าธรรมเนียมโอน
กำลังโหลดความคิดเห็น